การประชุมกลุ่มโอเปกพลัสในต้นสัปดาห์นี้ ได้รับการเปิดเผยจากผู้แทนเข้าร่วมประชุมซึ่งยืนยันในข้อมูลที่เป็นไปได้สูงว่ากลุ่มโอเปกพลัสจะมีมติต่ออายุมาตรการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบไปถึงสิ้นสุดไตรมาสที่ 2 ปีนี้ ปัจจุบันกลุ่มโอเปกพลัสลดกำลังการผลิตมากถึงวันละ 2 ล้านบาร์เรล นำโดยซาอุดิอาระเบียที่ลดกำลังการผลิตมากที่สุด ตามด้วยรัสเซียที่ลดการผลิตลงวันละ 600,000 บาร์เรล
ฟิทช์ เรตติ้งส์ เปิดเผยว่ารัฐบาลประเทศซาอุดิอาระเบียต้องการเห็นราคาน้ำมันดิบตลาดโลกเคลื่อนไหวเหนือกว่า 90 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งจะส่งผลรายได้เข้าประเทศมากขึ้น หลังจากรัฐบาลซาอุดิอาระเบียทุ่มงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในการพัฒนาโครงการเมืองเศรษฐกิจใหม่ และการสร้างสนามแข่งขันกีฬาระดับโลกเพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาระดับทัวร์นาเม้นท์ของโลก ด้านรัสเซียต้องการมีรายได้มากขึ้นจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อนำไปชดเชยงบประมาณรัฐบาลที่ใช้จ่ายในการทำสงครามกับยูเครนมาอย่างยืดเยื้อเข้าสู่ปีที่ 3
ด้านตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 1 มีนาคม 2024 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 79.97 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.71 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.19% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 83.55 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.64 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.00% ทั้งนี้ ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่งปิดเพิ่มขึ้น +4.5% และ +2.4% ตามลำดับ