นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ เฟด กล่าวว่า รายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐตั้งแต่เริ่มต้นปีนี้ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงแรงกดดันที่มีต่อเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับสูงภายใต้มุมมองของเฟด แต่นั่นไม่ได้เปลี่ยนแปลงเรื่องราวหรือข้อมูลในภาพรวมเกี่ยวกับเงินเฟ้อแต่อย่างใด นั่นหมายถึงเงินเฟ้อชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปถึงแม้ในบางช่วงเวลาจะสะดุดเพิ่มขึ้นเพื่อไปสู่เป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% แต่โดยส่วนตัวก็ไม่คิดว่าตัวเลขเงินเฟ้อนั้นจะเติมความมั่นใจกับแนวโน้มเงินเฟ้อในทิศทางลดลงซึ่งถ้าตัวเลขดังกล่าวในอนาคตเฟดจะรักษาอัตราดอกเบี้ยระดับสูงต่อไปหากจำเป็นที่สำคัญธนาคารกลางยังมีความจำเป็นที่ต้องการได้ข้อมูลมากกว่านี้ที่จะปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินหรือดอกเบี้ยระยะสั้น
กรรมการในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในคืนผ่านมา 20 มีนาคม 2024 เสียงส่วนใหญ่ หรือ 10 จาก 19 เสียงล้วนมองว่า ในปี 2024 นี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะมีขึ้นราว 3 ครั้ง แต่ที่น่าสนใจ คือ มีการมองว่าการลดดอกเบี้ยดังกล่าวในปี 2025 จะมีจำนวนลดลงมาอยู่ที่ 3 จากเดิมประเมินว่า 4 ครั้ง ซึ่งนักวิเคราะห์ยังคงคาดการณ์ว่าจะลดลงครั้งละ 0.25% และในปี 2026 นอกจากนี้ เฟดส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งๆ ละ 0.25% รวมทั้งหมด 0.75% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม
สำหรับมติการประชุมครั้งที่ 2 ในปีนี้เมื่อคืนผ่านมา พบว่ามีมติตรึงอัตราดอกเบี้ย ระหว่าง 5.25-5.50% ซึ่งอยู่สูงในรอบ 23 ปี ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกัน หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องถึง 11 ครั้ง นับตั้งแต่ในเดือนมีนาคม 2022 เป็นครั้งแรก
เฟด เปิดเผยต่อไปว่า สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐได้มีการปรับปรุงตัวเลขเศรษฐกิจใหม่ เริ่มจากปรับตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐใน 3 ปีจากนี้ไป เป็น 2.1%, 2.0% และ 2.0% ในปี 2024, 2025 และ 2026 ซึ่งการประชุมในช่วงต้นปีนี้ เฟดมองว่าตัวเลขคาดการณ์จะอยู่ที่ระดับ 1.4%, 1.8% และ 1.9% ตามลำดับ ด้านตัวเลขคาดการณ์อัตราว่างงานของสหรัฐในปี 2024, 2025 และ 2026 จะอยู่ที่ระดับ 4.0%, 4.1% และ 4.0% ตามลำดับ จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 4.1%, 4.1% และ 4.1% ตามลำดับ
ส่วนตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐมีการเปลี่ยนแปลงเฉพาะในปีนี้ โดยประเมินไว้ที่ระดับ 2.6%, 2.2% และ 2.0% สำหรับในปี 2024, 2025 และ 2026 จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 2.4%, 2.2% และ 2.0% ตามลำดับ
ทั้งนี้ การประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดที่เหลืออีก 6 ครั้งในปีนี้ จะมีขึ้นวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค.วันที่ 11-12 มิ.ย. วันที่ 30-31 ก.ค. วันที่ 17-18 ก.ย. วันที่ 6-7 พ.ย. และครั้งสุดท้ายในวันที่ 17-18 ธ.ค. 2024
