นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA กล่าวว่า แผนดำเนินงานปี 2567 มุ่งพัฒนาและยกระดับศักยภาพในทุกด้านเพื่อการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจอย่างแข็งแกร่ง ควบคู่กับการสร้างความพร้อมในการรับมือทุกความท้าทายและก้าวสู่เป้าหมายใหม่ต่อไปในอนาคต และตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ปีนี้เบื้องต้นที่ตัวเลข 2 หลัก และรายได้ 5 ปี 1 แสนล้านบาท
ในขณะที่ผลประกอบการปี 2566 ทำลายสถิตินิวไฮเป็นปีที่ 2 สามารถปิดดีลสัญญาซื้อขายที่ดินรวม 2,767 ไร่ และพื้นที่เช่าโครงการโรงงาน–คลังสินค้า 242,000 ตร.ม. คาดมีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรปกติ 17,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 11% และสามารถรักษาระดับอัตรากำไร EBITDA ที่มากกว่า 40% พร้อมวางงบลงทุน 5 ปี (ปี2567-2571) กว่า 78,700 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ปี 2567 ยังคงเดินหน้าพัฒนาโซลูชันทางธุรกิจและอุตสาหกรรม เพื่อบรรลุเป้าหมายที่จะเป็น Technology Company อย่างเต็มตัว ผ่าน 4 กลยุทธ์สำคัญ คือ Extend Leadership เร่งขยายธุรกิจต่อเนื่องทั้งในประเทศและตลาดภูมิภาค Embrace Innovation and Technology นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ ๆ ที่เป็น New S-curve ให้กับองค์กร Enhance the Prominence on Green and Sustainability เพื่อบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ในปี 2593 (Net-Zero 2050) และ Build High-Performance Organization ด้วยการพัฒนายกระดับด้านเทคโนโลยีดิจิทัลให้เป็นองค์กรสมรรถนะสูง
สำหรับโครงการแลนด์บริดจ์ที่รัฐบาลพยายามผลักดันนั้น ส่วนตัวมองว่าหากเกิดขึ้นจริงก็จะเป็นผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศ เพราะจะไม่ใช่แค่การเกิดท่าเรือแต่จะสามารถต่อยอด เป็นอุตสาหกรรมขนส่งได้
ขณะที่ความล่าช้ากรณีที่ บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด บริษัทในเครือซีพี ซึ่งได้รับสัมปทานการลงทุนและเดินรถไฟความเร็วสูงในโครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก รถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง–สุวรรณภูมิ–อู่ตะเภา) แต่ไม่ได้รับการต่ออายุ บัตรส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) หลังจากหมดอายุไปตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. 2567 อาจส่งผลให้มีความล่าช้าต่อการลงทุน ส่วนตัวมองว่าไม่ได้กระทบต่ออีอีซีหรือกับบริษัทฯ โดยตรง แต่จะกระทบต่อการเดินทางของคนมากกว่า