นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า การที่รัฐบาลไทยประกาศให้วีซ่าฟรีแก่ชาวต่างชาติรวม 93 ประเทศ โดยขยายเวลาเข้ามาท่องเที่ยว และอาศัยในไทยได้นานถึง 60 วัน มีความสุ่มเสี่ยงเหมือนกันว่าบางรายจะเข้ามาทำอย่างอื่น เกรงว่าจะเข้ามาทำงาน แย่งอาชีพของคนไทย แอตต้ามองว่าการให้วีซ่าฟรีอยู่ได้นานถึง 30 วันก็เพียงพอแล้ว นักท่องเที่ยวยุโรปที่มีวันหยุดพักร้อนนาน เวลามาเที่ยวไทยก็อยู่ประมาณนี้
ส่วนชาวรัสเซียที่อยู่นานก็ด้วยเหตุผลหนีสงคราม นักท่องเที่ยวจีนมาไทยก็พำนักเฉลี่ย 7-10 วัน ส่วนนักธุรกิจที่ต้องใช้เวลาพำนักนาน ที่ผ่านมาก็มีวิธีการยื่นขอวีซ่าอีกประเภทอยู่แล้ว ต้องเข้าใจว่านักท่องเที่ยวจริงๆ เขาไม่ได้อยู่นานขนานนั้น โดยมองว่ามาตรการนี้จะช่วยดึงดูดชาวต่างชาติเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยมากกว่า
การขยายระยะเวลาอยู่ในไทยมากขึ้น ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2567 นั้น แอตต้ามองว่าแม้จะถือเป็นเรื่องดีต่อภาพรวมธุรกิจท่องเที่ยว แต่การขยายวันพำนักให้อยู่ในประเทศไทยได้ยาวๆ อาจจะไม่เอื้อต่อตลาดคนที่เป็นนักท่องเที่ยวจริงๆ ซึ่งส่วนใหญ่พำนักในไทยเฉลี่ย 10-21 วัน ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวเอเชียจะอยู่ไม่เกิน 15 วัน ส่วนนักท่องเที่ยวระยะไกล เช่น ยุโรป จะอยู่ยาวไม่เกิน 30 วัน
นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า เป้าหมายการสร้างรายได้รวมการท่องเที่ยวที่ 3.5 ล้านล้านบาทยังต้องลุ้นต่อไป ในแง่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น คาดว่าจะถึง 35 ล้านคนได้แน่นอน โดย 5 เดือนแรกของปีนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยสะสม 14.76 ล้านคน เพิ่มขึ้น 38% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และสร้างรายได้ 7.01 แสนล้านบาท แต่จากจำนวนคาดการณ์ต่างชาติที่ 39 ล้านคน ให้มีรายได้จากตลาดต่างประเทศ 2.3 ล้านล้านบาท ยังถือว่าเหนื่อย ยังต้องออกแรงอีกมาก
ประเด็นที่เสนอให้รัฐบาลเพื่อไทย ภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน คือ อย่าเขินที่จะนำโครงการลักษณะเหมือน “คนละครึ่ง” หรือ “เราเที่ยวด้วยกัน” ของรัฐบาลชุดก่อนที่ได้ผลดี มาช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวตลาดในประเทศ