ในการสัมมนาในหัวข้อ “Entertainment Complex : ก้าวใหม่ของเศรษฐกิจสังคมไทย” ซึ่งจัดโดยคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวในการเป็นประธานเปิดงานว่า ในเรื่อง Entertainment Complex เป็นเรื่องที่หลายวงการให้ความสนใจ และความจริงเรื่องนี้ สภาฯ เคยตั้งคณะกรรมการศึกษามาแล้ว แต่ถึงเวลารายงานก็ยุบสภาไปเสียก่อน ในฐานะที่เป็นประธานสภาฯ ไม่สามารถที่จะให้ความเห็นได้ว่าดีหรือไม่ แต่อยากให้ความเห็นจากที่เคยไปดูงานมาหลายที่ ซึ่งก็มีข้อถกเถียงกัน มีทั้งถูกและผิด เพราะอาจจะมองไม่ครบรอบด้าน และมองคนละมุม
โดยเห็นว่า เรื่องนี้ควรจะได้มีการรับฟังความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง รัฐบาลก็มองเห็นเรื่องการฟื้นเศรษฐกิจให้กับประเทศและการท่องเที่ยว การลงทุน แต่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องขัดกับจริยธรรม และเป็นการมอมเมาประชาชน ซึ่งก็แล้วแต่มุมมอง แต่มุมมองหนึ่งที่คิดว่าไม่ค่อยมีคนพูดถึง แต่ตนอยากพูดจากความเป็นจริงว่า เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าวันนี้เราเรียกว่าการพนัน ซึ่งเป็นคำที่ใช้มาตั้งแต่โบราณ รวมถึงใช้คำว่าบ่อนด้วย
ขณะเดียวกันคงปฏิเสธไม่ได้ว่าวันนี้ รวมไปถึงในอดีตที่ผ่านมาประเทศเรามีบ่อนหรือไม่ ซึ่งคิดว่ามีมานานแล้วมีมากด้วย แม้แต่จังหวัดไกลๆ อย่างจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็มีบ่อน และไม่ใช่จังหวัดหนึ่งมีบ่อนเดียว แต่มีหลายบ่อน แต่กฎหมายไม่ได้อนุญาตให้มีแต่ก็มีตลอด แล้วถ้าจะไม่ให้มีเป็นไปได้หรือไม่ก็ต้องมาคิดกัน
นอกจากบ้านเราจะมีบ่อนแล้ว รอบบ้านเราก็มี อย่างกัมพูชา เมียนมา และลาว มีเปิดหลายแห่ง ซึ่งคนไปเล่น 70% ก็คือคนไทย อาจจะเป็นเพราะคนไทยเป็นคนชอบเสี่ยงหรือไม่ ชีวิตนี้อยู่ในความเสี่ยง คนประเทศอื่นอาจจะไม่เหมือนเรา ดังนั้น เมื่อจะออกกฎหมายก็ต้องดูความเหมาะสม เหตุผล ข้อดีข้อเสียที่จะต้องพิจารณาให้รอบด้าน แล้วเอาเรื่องอุดมการณ์กับเรื่องความเป็นจริงในสังคม เพราะคนไทยเราไม่ชอบมองความเป็นจริง เราปฏิเสธความเป็นจริงหลายอย่าง เช่น เรื่องบ่อนที่เราบอกว่าไม่อนุญาตให้มี แต่ความเป็นจริงมีหรือไม่ สิ่งที่พูดมาทั้งหมดไม่ได้เชียร์ว่าให้มีหรือไม่ให้มีบ่อน เพราะขึ้นอยู่กับกาลเวลา และการพิจารณาโดยรอบด้าน ผู้ตัดสินใจคือประชาชน เพราะรัฐบาลก็มาจากประชาชน คนค้านก็ประชาชน จึงขอให้ตัดสินใจให้ดี