ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,367.96 จุด ปรับขึ้น 3.44 จุด หรือ+0.25% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 42,001.69 ล้านบาท โดยตลาดหุ้นไทยแกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้างรับประเด็นเฟดคงดอกเบี้ย และแรงเก็งกำไรหุ้นรายตัวตามงบไตรมาส 4/66 ขณะที่รอติดตามประเด็นการเมืองในประเทศจากการยื่นเรื่องยุบพรรคก้าวไกล
การซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีแกว่งไซด์เวย์ โดยทำจุดต่ำสุด 1,357.39 จุด และทำจุดสูงสุด 1,372.83 จุด
3 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1. AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,041.55 ล้านบาท ปิดที่ 61.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
2. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,863.55 ล้านบาท ปิดที่ 150.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
3. BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,450.70 ล้านบาท ปิดที่ 140.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
ส่วนตลาด SET 50 ปิด 836.15 จุด ปรับขึ้น +2.13 จุด หรือ+0.26% มูลค่าการซื้อขาย 24,538.41 ล้านบาท และตลาด mai ปิดที่ 407.72 จุด ปรับขึ้น +1.22 จุด หรือ +0.30% มูลค่าซื้อขาย 933.33 ล้านบาท
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง ตอบรับประเด็นที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และมีแรงเก็งกำไรหุ้นรายตัวตามผลประกอบการไตรมาส 4/66
ขณะที่นักลงทุนรอติดตามประเด็นการเมืองในประเทศ โดยเริ่มมีการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ยุบพรรคก้าวไกล หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าการกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล เป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงต้องรอดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
สำหรับแนวโน้มตลาดในวันพรุ่งนี้คาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์เกาะติดการเปิดเผยตัวเลขจ่างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐเดือน ม.ค. ในคืนวันพรุ่งนี้ ให้กรอบแนวรับ 1,365 จุด และแนวต้าน 1,375 จุด