วัยรุ่นไทยเจนซี (Z) 15-24 ปี กว่า 1.4 ล้านคน คิด 3 ไม่ ไม่เรียน ไม่ทำงาน ไม่อบรม ผลพวง 3 ห่วง ห่วงเป็นหนี้ ห่วงค่าเรียนแพง ห่วงจบไม่ตรงปก ระบบการศึกษาทำเด็กรู้สึกมองไม่เห็นอนาคต

วัยรุ่นไทยเจนซี (Z) 15-24 ปี กว่า 1.4 ล้านคน คิด 3 ไม่ ไม่เรียน ไม่ทำงาน ไม่อบรม ผลพวง 3 ห่วง ห่วงเป็นหนี้ ห่วงค่าเรียนแพง ห่วงจบไม่ตรงปก ระบบการศึกษาทำเด็กรู้สึกมองไม่เห็นอนาคต

ดีลอยท์ ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจให้บริการที่ปรึกษาการลงทุนชื่อดังระดับโลก เปิดเผยรายงานมีชื่อว่า ดีลอยท์ โกลบอล 2025 วัยเจนซี (Deloitte Global 2025 Gen Z) และรายงานชื่อว่าผลสำรวจมิลเลนเนียล (Millennial Survey) โดยเฉพาะรายงานดังกล่าวเกี่ยวกับประเทศไทย พบว่า คนไทยทั้งวัยเจนซี (Z) หรือมีอายุถึง 25 ปี และวัยเจนวาย (Y) หรือมีอายุถึง 25 – 45 ปี มีความกังวลค่าครองชีพเป็นอันดับหนึ่ง สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทยที่ทำให้ประชาชนคนไทยมีความท้าทายในการหารายได้ ต้องใช้ชีวิตแบบเดือนชนเดือน ไม่มีเงินเก็บออม และยังต้องดิ้นรนเพื่อให้จ่ายให้ทันเวลา

ความกังวลด้านการเงิน และค่าครองชีพของคนไทยใน 2 วันนั้น ประกอบด้วย เป็น ความกังวลระดับสูงสุดคิดเป็น 38% ของคนเจนซี และ 36% ของคนเจนวาย รองลงมาคือ การเติบโตทางเศรษฐกิจ คิดเป็น 23% ของคนเจนซี และ 26% ของคนเจนวาย ตามด้วยความปลอดภัยทางไซเบอร์คิดเป็น 22% ของคนเจนซี และ 23% ของคนเจนวาย

ด้านการใช้ชีวิตแบบเดือนชนเดือนของคนไทย ปรากฏว่า มีสัดส่วนของผู้ที่ใช้ชีวิตแบบเดือนชนเดือนสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก โดยคนเจนซีมีถึง 63% และคนเจนวายมีถึง 64% ของในไทย สัดส่วนดังกล่าวถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยที่ 52% ทั่วโลก นั่นหมายถึงคนไทยส่วนใหญ่ไม่มีเงินเก็บออมเลย ในขณะที่ คนไทยกลับมีความกังวลน้อยกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกในเรื่องของการดิ้นรนเพื่อจ่ายค่าครองชีพทุกเดือน และไม่สามารถเกษียณได้อย่างสุขสบายทางการเงิน ถึงแม้ว่ารายได้จะมีอย่างจำกัด สิ่งนี้สะท้อนว่า คนไทยให้ความสำคัญกับปัญหาทางการเงินระยะสั้นมากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก

สำหรับกลุ่มคนไทยรุ่นใหม่วัยเจนวาย (Y) และวัยเจนซี (Z) พบว่า มีกว่า 16% เลือกไม่เรียนต่อระดับปริญญาตรี สาเหตุจากความกังวลเกี่ยวกับระบบหนี้กู้ยืมการศึกษา และค่าใช้จ่ายที่สูงมาก มี 44% กังวลค่าเล่าเรียนแพง ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการเข้าถึงการศึกษาระดับสูง นอกจากนี้ มีความกังวลด้านคุณภาพการศึกษาของไทย และความไม่สอดคล้องของเนื้อหาหลักสูตรกับตลาดงานที่มองหา

สอดรับกับงานวิจัยร่วมขององค์กรระดับโลก คือยูนิเซฟ ประเทศไทย กระทรวงแรงงาน และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า วัยรุ่นไทยในเจนซี (Z) หรือมีอายุ 15-24 ปี จำนวนกว่า 1.4 ล้านคน อยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า NEET คือ ไม่ต้องการเรียน ไม่ต้องการทำงาน และไม่ต้องการฝึกอบรม เนื่องจากระบบการศึกษาในไทยที่ยังทำให้เด็กมองไม่เห็นอนาคตของตนเอง และความยากจนที่ทำให้เด็กขาดโอกาสเรียนต่อระดับสูง ปัจจัยทางเพศและสังคมในปัจจุบันที่ส่งผลต่อโอกาสทางการศึกษาและการทำงานต่อไป

ทั้งนี้ ทัศนคติ ความกังวล และความคาดหวังของคนรุ่นใหม่ในประเทศไทย พบว่า 3 ปัจจัยที่มีอิทธิพลสูงสุดต่อความสุขของคนรุ่นใหม่คือ เงิน (Money), ความหมายในการทำงาน (Purpose) และความเป็นอยู่ที่ดี (Well-being)

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles