วายแอลจี มองราคาทองระยะยาวยังเป็นขาขึ้น จับตาทิศทางดอกเบี้ยเฟด ระยะสั้นอาจแตะ 3,375 ดอลลาร์/ออนซ์ ทองไทย 52,200 บาท

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า ในคืนนี้ แนะนำต้องจับตาการประชุมแจ็กสัน โฮล ซึ่งได้เริ่มต้นวันแรกไปเมื่อวานนี้ (21 ส.ค.) และวันนี้เป็นวันที่สองของการประชุม โดยนาย เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีกำหนดขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย สิ่งที่ต้องจับตาเป็นพิเศษซึ่งจะกระทบต่อราคาสินทรัพย์การลงทุน คือ 1.อัตราเงินเฟ้อ 2.ตลาดแรงงาน และ 3.การทบทวนกรอบนโยบาย

โดยราคาทองคำนั้น ต้องจับตาว่านาย เจอโรม พาวเวล จะแสดงท่าทีกังวลในเรื่องอัตราเงินเฟ้อ หรือตลาดแรงงานมากกว่ากัน เนื่องจากหากกังวลในภาวะเงินเฟ้อ จากดัชนี PPI ที่เร่งตัวขึ้นมาในช่วงก่อนหน้า อาจทำให้ตลาดตีความว่าเฟดจะไม่รีบลดดอกเบี้ย และเป็นปัจจัยกดดันทองคำ แต่หากมีการแสดงความกังวลต่อตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอลงอย่างชัดเจน จะเป็นปัจจัยสนับสนุนการปรับลดดอกเบี้ยเฟด และกลับมาเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำเช่นกัน

ขณะที่แนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงเดือน ก.ย. มีโอกาสกลับมาเป็นสัญญาณบวก เนื่องจากในท้ายที่สุดแล้ว ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดก็จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอยู่ดี โดยในการประชุมเฟดในวันที่ 16-17 ก.ย.นี้ ตลาดเทน้ำหนักส่วนใหญ่ว่าจะปรับลด 0.25% และจะทำการลดดอกเบี้ยรวมได้ 2-3 ครั้งในปีนี้ วายแอลจีจึงคาดการณ์ว่าในเดือนก.ย. อาจจะมีโอกาสเห็นราคาทองคำขึ้นไปแตะจุดสูงสุดเดิมที่เคยทำไว้ที่ 3,500 ดอลลาร์/ออนซ์

นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงสนับสนุนจากสถาบันการเงินขนาดใหญ่ เช่น UBS ได้ปรับเป้าหมายราคาทองคำเป็น 3,600 ดอลลาร์/ออนซ์ ภายในไตรมาส 1 ปี 2569 ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายของวายแอลจี ที่ให้ไว้ที่ 3,600-3,700 ดอลลาร์/ออนซ์ ในขณะที่ Goldman Sachs ได้คงคาดการณ์ราคาทองคำที่ 4,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ในช่วงกลางปี 2569

ในระยะยาวยังมีกระแส De-Dollarization ลดทอนบทบาทดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของ BRICS มาสนับสนุนราคาทองคำ โดย IMF รายงานว่า สัดส่วนของสกุลเงินดอลลาร์ในเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ลดลงเหลือ 57.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2537 สวนทางกับเทรนด์การเข้าซื้อทองคำที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจาก World Gold Council รายงานว่า ธนาคารกลางยังคงซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง เป็นปีที่ 15 ติดต่อกัน โดยในปี 2567 มีปริมาณการเข้าซื้อทองคำระดับ 1,045 ตัน และถือเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันแล้ว ที่ความต้องการทองคำสูงเกิน 1,000 ตัน สูงกว่าค่าเฉลี่ยสิบปีที่ 473 ตัน

สำหรับการเคลื่อนไหวของทองคำในช่วงระยะสั้นนี้ วายแอลจี มองกรอบการเคลื่อนไหวที่ 3,311-3,280 ดอลลาร์/ออนซ์ หากสามารถผ่านช่วงการประชุมแจ็กสัน โฮล ไปแล้วยังสามารถยืนอยู่ได้ จะมีโอกาสปรับตัวขึ้นอีกครั้งไปทดสอบแนวต้าน 3,352-3,375 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนราคาทองคำในประเทศ มองเคลื่อนไหวในกรอบ 50,700-52,200 บาท/บาททองคำ

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles