วิจัยกสิกรไทยจ่อลดเป้าเศรษฐกิจไทยปี 68 อีกรอบ เลวร้ายสุดอาจโตแค่ 1% จากเป้าล่าสุดคาดโต 1.4% เตือน 2 ไตรมาสสุดท้ายเผชิญเศรษฐกิจติดลบ ท่องเที่ยวหดตัวลึกเกิน กระแทกถึงเศรษฐกิจรากหญ้าชัด

วิจัยกสิกรไทยจ่อลดเป้า เศรษฐกิจไทย ปี 68 อีกรอบ เลวร้ายสุดอาจโตแค่ 1% จากเป้าล่าสุดคาดโต 1.4% เตือน 2 ไตรมาสสุดท้ายเผชิญเศรษฐกิจติดลบ ท่องเที่ยวหดตัวลึกเกิน กระแทกถึงเศรษฐกิจรากหญ้าชัด

นายบุรินทร์ อดุลวัฒนา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า กล่าวว่า ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด เศรษฐกิจประเทศไทยในปี 2025 ขยายตัวเพียง 1% อย่างไรก็ตามยังคงมองว่าเศรษฐกิจไทยจะไม่ขยายตัวตกต่ำกว่า 1% เนื่องจาก เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสที่หนึ่งและไตรมาสที่สองของปีนี้การขยายตัวพอไปได้ในระดับหนึ่ง แต่ที่สำคัญเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 จะติดลบ ส่วนที่จะติดลบมากน้อยแค่ไหนอย่างไร จะต้องติดตามสถานการณ์กันอีกครั้ง โดยเฉพาะหนึ่งในปัจจัยที่ยังไม่ได้พิจารณาคือภาวะการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่มีการหดตัวลึกอย่างนี้

หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวต่อไปว่า อาจจะมีการปรับอีกรอบหนึ่งเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ หรือจีดีพีของประเทศไทยในปี 2025 เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวชะลอตัวลงมาก ส่งผลกระทบลงไปถึงกลุ่มระดับรากหญ้า หลังจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนหดหายไป จึงเกิดภาวะการตึงตัวในภาคบริการที่ชะลอตัวลงมาก ขณะที่ภาคการส่งออกก็ชะลอตัวเพื่อที่จะรอดูความชัดเจนในวันกำหนดเส้นตาย 8 กรกฎาคม 2025 ของ การผ่อนคลายมาตรการตามตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs ของรัฐรัฐบาลสหรัฐอเมริกา

ตัวเลขเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 จะมีแนวโน้มทรุดลง เมื่อเทียบกับ 2 ไตรมาสแรกของปีนี้ จึงทำให้ทุกฝ่ายต้องเตรียมตัวไว้ การลงทุนของภาคเอกชนชะงักลงอย่างชัดเจนสะท้อนได้จากสถาบันสำนักเศรษฐกิจชื่อดังระดับโลกหลายแห่ง เช่น โออีซีดี ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ขยายตัวเศรษฐกิจโลกรวมถึงเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจีนอินเดียลดลงทั้งในปีนี้และปีหน้า

นอกจากนี้ สำหรับปัจจัยภายนอกประเทศที่จะส่งผลต่ออัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยให้ถูกคาดการณ์ว่าเติบโตลดน้อยลงจากเป้าหมายเดิม ได้แก่ หากการเจรจาของไทยกับสหรัฐอเมริกาไม่สามารถที่จะลดอัตราภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs ซึ่งประกาศเก็บในอัตราที่สูงถึง 36% ในช่วงครึ่งปีหลังได้ สถานการณ์การตอบโต้สงครามภาษีระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนและกลุ่มสหภาพยุโรปที่อาจขยายตัวรุนแรงและเข้มข้นมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้มีการประกาศการจัดเก็บอัตราภาษีที่เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าในปัจจุบันที่ได้ประกาศไว้

นอกจากนี้ปัจจัยการขยายตัวของภาวะเศรษฐกิจโลกอ่อนแอลงอย่างมาก สะท้อนจากการคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่มีขนาดใหญ่อันดับหนึ่งของโลกเติบโตเพียง 1% และเศรษฐกิจจีนซึ่งขนาดใหญ่อันดับสองของโลกเติบโตต่ำกว่า 4%

ทั้งนี้ นายบุรินทร์ อดุลวัฒนา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวในงานสัมมนาเจาะตลาดสากล Market Intelligence เพื่อ SMEs ของสสว.จัดขึ้นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายนผ่านมา ก่อนหน้านี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ปรับลดอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจหรือจีดีพีประเทศไทยลงจาก 2.4% มาอยู่ที่คาดการณ์เติบโต 1.4% สาเหตุจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาประกาศใช้มาตรการภาษีต่างตอบแทนเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles