ว่าที่ซีอีโอใหม่นิสสัน ลั่น 10 ปีผลิตรถนิสสันอัจฉริยะ เปิดกว้างร่วมงานพันธมิตรดั้งเดิมหรือหัวใหม่ นิสสันผลิตรถใช้เวลานาน 4 ปีครึ่ง ต้องหดเหลือไม่เกิน 3 ปีเศษ เวลานี้องค์กรขาดความเห็นอกเห็นใจกัน

ว่าที่ซีอีโอใหม่ นิสสัน ลั่น 10 ปีผลิตรถนิสสันอัจฉริยะ เปิดกว้างร่วมงานพันธมิตรดั้งเดิมหรือหัวใหม่ นิสสันผลิตรถใช้เวลานาน 4 ปีครึ่ง ต้องหดเหลือไม่เกิน 3 ปีเศษ เวลานี้องค์กรขาดความเห็นอกเห็นใจกัน

นายอีแวน เอสพิโนซ่า ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารงานวางแผน หรือซีพีโอ ซึ่งขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอคนใหม่ มีผลในวันที่ 1 เมษายน 2025 นี้ กล่าวว่า นิสสันจากนี้ไปจะไม่มีข้อต้องห้ามในการเปิดรับ พูดคุยความเป็นไปได้กับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อที่จะผลักดันให้นิสสันก้าวไปสู่ยุคที่เรียกว่าเทคโนโลยีใหม่ ช่วงเวลา 10 ปีข้างหน้าจากนี้ไป นิสสันมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะเน้นการพัฒนาความสามารถของนิสสัน ในการพัฒนารถยนต์อัจฉริยะ ซึ่งหมายถึงการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีใหม่เพื่อทำให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์การขับขี่ และฟังก์ชันการใช้งานอัตโนมัติ

การเปิดกว้างเพื่อพูดคุยกับพันธมิตรต่างๆ นั้น ไม่เพียงแต่จะพูดคุยกับผู้ผลิตรถยนต์ที่อยู่ในค่ายดั้งเดิมถึงแม้ว่า จะเป็นที่ทราบกันดีว่าบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ค่ายดั้งเดิมจะขาดความเก่งในด้านเทคโนโลยีชั้นสูง แต่ยังรวมถึงใครที่นิสสันควรจะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจด้วย เพื่อที่จะพัฒนารถยนต์อัจฉริยะในอนาคต

อีแวน เอสพิโนซ่า กล่าวว่า ขณะนี้ นิสสันมีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องแก้ไขวิกฤตเกี่ยวกับเรื่องของทัศนคติในการทำงานภายในองค์กรของนิสสัน ทุกวันนี้คนของนิสสันขาดความเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน ถือเป็นเรื่องปกติของสัญชาตญาณมนุษย์ที่มักจะชี้นิ้วใส่กันในยามที่เกิดปัญหาและความยากลำบากภายในองค์กร จากนี้ไปนิสสันมีความจำเป็นที่จะต้องทำงานให้เป็นทีมเดียวกัน ในแง่การบริหารงานเพื่อพัฒนาหรือผลิตรถยนต์นั้น นิสสันใช้เวลาในการพัฒนารถเป็นระยะเวลานานถึง 55 เดือนหรือเปล่าสี่ปีเกือบหกเดือนซึ่งถือเป็นเรื่องที่ยืดยาวนานเกินไปดังนั้นภายใต้ทิศทางใหม่นิสสันจะต้องผลิตรถโดยใช้ระยะเวลาไม่เกิน 37 เดือน

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 11 มีนาคมผ่านมา นิสสัน มอเตอร์ แถลงว่า คณะกรรมการมีมติให้นายมาโกโตะ อูชิดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีโอ นิสสัน มอเตอร์ ญี่ปุ่น ลงจากตำแหน่งดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2025 เป็นต้นไป ในขณะเดียวกัน มีมติให้นายอีแวน เอสพิโนซ่า ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารงานวางแผน หรือซีพีโอ ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอคนใหม่ มีผลในวันที่ 1 เมษายน 2025 นี้ การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งซีอีโอใหม่ในครั้งนี้ นับเป็นซีอีโอคนที่ 4 ในช่วงระยะเวลาน้อยกว่า 6 ปี อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการของบริษัทนิสสัน มอเตอร์ได้กำหนดบทบาทและหน้าที่ให้นายอีแวน เอสเพียโนซ่า มีอำนาจบริหารในลักษณะรักษาการไปจนกว่าคณะกรรมการจะมีมติสรรหา และแต่งตั้งซีอีโอคนใหม่อย่างถาวรต่อไป

เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2025 สำนักข่าวไฟแนนซ์เชียล ไทม์ รายงานว่า ฮอนด้า มอเตอร์ พร้อมที่จะเดินหน้าเจรจาพูดคุยเพื่อควบรวมกับนิสสัน มอเตอร์ ถ้านายมาโกโตะ อูชิดะ ซีอีโอ นิสสัน มอเตอร์ ลงจากตำแหน่งดังกล่าว

รายงานข่าวดังกล่าวเปิดเผยต่อไปว่า ต้องการผู้บริหารระดับสูงของนิสสัน มอเตอร์ ที่สามารถบริหารความขัดแย้ง หรือความไม่ลงรอยกันซึ่งเกิดขึ้นภายในเป็นหลัก ขณะที่มีรายงานว่า นายโตชิฮีโร่ มิเบะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ฮอนด้า มอเตอร์ มีแผนการที่จะควบรวมกิจการนิสสันมอเตอร์ในลักษณะแบบไม่เป็นมิตร หรือ Hostile Takeover แต่อย่างใด

ไฟแนนซ์เชียล ไทม์ รายงานเพิ่มเติมว่าคณะกรรมการของบริษัทนิสสัน มอเตอร์จะมีการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ หรือพูดคุยนอกรอบ เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เหลือในการบริหารงานของนายมาโกโตะ อูชิดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอคนปัจจุบัน

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ผ่านมา นายมาโกโตะ อูชิดะ ประธานนิสสัน มอเตอร์ ค่ายผลิตรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่อันดับ 3 ในประเทศญี่ปุ่น ได้เข้าพบกับนายโตชิฮิโร มิเบะ ประธานฮอนด้า มอเตอร์ ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อชี้แจงว่านิสสันมีความต้องการยกเลิกการเจรจาเพื่อควบรวม หลังจากมีรายงานในสำนักข่าวญี่ปุ่นหลายแห่งว่า ฮอนด้าต้องการให้นิสสันกลายเป็นบริษัทในเครือของฮอนด้า ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงในนิสสัน มอเตอร์ ญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ในฝั่งนิสสันได้เห็นตรงกันเป็นเอกฉันท์ว่าการเจรจาควบรวมนั้นไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ภายใต้ประเด็นดังกล่าว แหล่งข่าวรายเดียวกัน เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์หน้า นิสสันจะสรุปการตัดสินใจอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการถอนตัวจากบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ หรือ MOU กับฮอนด้า ซึ่งจะต้องมีขึ้นก่อนการแถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของนิสสัน ด้านสำนักข่าวเอ็นเอชเค (NHK) รายงานวันนี้ว่า จุดยืนของฮอนด้า คือ จะไม่ยอมรับการควบรวมใดๆ ถ้าหากนิสสันไม่ยินยอมตกลงเปลี่ยนแปลงสถานะมาเป็นบริษัทในเครือของฮอนด้า

ในเวลานั้น สำนักข่าวในญี่ปุ่น และต่างประเทศ ได้รายงานข่าวนิสสัน เปิดเผยว่า ได้ยกเลิกการเจรจาการควบรวมกับฮอนด้า สาเหตุของการยุตติการเจรจาควบรวมของทั้งสองแบรนด์ยักษ์ใหญ่ในวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ของญี่ปุ่นในครั้งนี้แหล่งข่าวระดับสูง 2 ราย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเจรจาดังกล่าวเปิดเผยว่า ทั้งสองฝ่ายมีปัญหาในความซับซ้อนในการเจรจาเนื่องจากความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดและสิ้นเชิง

นิสสัน มอเตอร์ ตัดสินใจถอนบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ หรือเอ็มโอยู ซึ่งมีการลงนามระบุรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนและกรอบเวลาของการเจรจาควบรวมที่ได้ลงนามกันระหว่างฮอนด้า มอเตอร์และนิสสัน มอเตอร์ ในงานแถลงข่าวขิงทั้ง 2 ค่ายเมื่อสัปดาห์สุดท้ายในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา

สาเหตุสำคัญในการถอนบันทึกเอ็มโอยูดังกล่าวมีสาเหตุมาจากทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ และไม่มีข้อยุติในการตีค่าประเมินมูลค่าของแต่ละฝ่ายภายใต้โครงสร้างของบริษัทโฮลดิ้งส์ที่จะจัดตั้งขึ้นในอนาคต โดยมีทั้ง 2 ฝ่ายเข้าถือหุ้น และฝ่ายฮอนด้าเป็นฝ่ายถือหุ้นในสัดส่วนมากกว่า นอกจากนี้ นิสสัน มอเตอร์ ปฏิเสธการเปลี่ยนสถานะไปเป็นบริษัทในเครือของโครงสร้างบริษัทโฮลดิ้งส์ใหม่ด้วย

ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการของนิสสัน มอเตอร์ จะมีการจัดประชุมเร็วๆ นี้ เกี่ยวกับการยกเลิกการเจรจาควบรวมกับฮอนด้า มอเตอร์ หลังจากเมื่อวานนี้ สำนักข่าวเกียวโดของประเทศญี่ปุ่น ได้รายงานว่าฮอนด้า มอเตอร์ส่งสัญญาณว่านิสสัน มอเตอร์ จะกลายเป็นบริษัทในเครือของฮอนด้า มอเตอร์ หนึ่งในแหล่งข่าวระดับสูงของทีมเจรจา เปิดเผยว่าข่าวดังกล่าวเปรียบเสมือนกับการกระตุกความตั้งใจโดยการใช้วิธีการเจรจา ซึ่งตั้งอยู่บนหลักการของการควบรวมที่นำไปสู่ความเสมอภาคกัน

สำนักข่าวชื่อดังในประเทศญี่ปุ่นหลายแห่งล้วนรายงานไปในทิศทางเดียวกันว่านิสสัน มอเตอร์ เผชิญความยากลำบากในการที่จะสรุปแผนการปรับโครงสร้างและการฟื้นฟูธุรกิจรถยนต์นิสสัน ตามที่เคยประกาศไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนในปี 2024 ที่ผ่านมา นิสสันประกาศว่าจะมีการปลดพนักงานจำนวน 9,000 คน หรือคิดเป็น 7% ของพนักงานที่มีอยู่ในปัจจุบันทั่วโลก พร้อมกับรถกำลังการผลิตรถยนต์ลงถึง 20% ในภาพรวมของโรงงานนิสสันที่มีอยู่ทั่วโลก

แหล่งข่าวระดับสูงในนิสสัน มอเตอร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวนิกเคอิ ว่า แผนปฏิบัติการฟื้นฟูกิจการรถยนต์ของนิสสันต้องเผชิญกับความยากลำบาก เนื่องจากมีการต่อต้านและไม่เห็นด้วยจากพนักงานนิสสันในแต่ละภูมิภาคที่บริษัทนิสสัน มอเตอร์ ได้กำหนดแผนการตัดลดค่าใช้จ่ายไว้

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2024 ฮอนด้า มอเตอร์ และนิสสัน มอเตอร์ เปิดแถลงข่าวด้วยแถลงการณ์ร่วมของทั้ง 2 บริษัท พร้อมกับลงนามในบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU ร่วมกัน ว่าให้มีการกำหนดเป้าหมายในการควบรวมภายในเดือนสิงหาคม ปี 2026 โดยใช้รูปแบบการจัดตั้งบริษัทประเภทโฮลดิ้งส์ คอมพานี นอกจากนี้ ด้านโครงสร้าง และสายการบริหารของบริษัทโฮลดิ้ง คอมพานี แห่งนี้ ฮอนด้า มอเตอร์ จะส่งผู้บริหารระดับสูงนั่งในตำแหน่งประธานบริษัทโฮลดิ้ง คอมพานี และกรรมการโดยส่วนใหญ่จะถูกแต่งตั้งโดยฮอนด้าเข้านั่งบริหารร่วมกับกรรมการที่แต่งตั้งมาจากนิสสัน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันที่จะดำเนินการเจรจาในรายละเอียดของการควบรวมให้เสร็จสิ้นภายในเดือนมิถุนายน 2025 นี้

แถลงการณ์ร่วมของทั้ง 2 บริษัท เปิดเผยต่อไปว่า ศักยภาพของพลังประสานร่วมกันทั้ง 2 ฝ่ายจะส่งผลให้การควบรวมของฮอนด้าและนิสสันกลายเป็นบริษัทในอุตสาหกรรมการเคลื่อนที่ระดับโลกที่จะมียอดขายรวมกันกว่า 30 ล้านล้านเยน หรือ 190,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 6.7 ล้านล้านบาท และจะมีกำไรรวมกันกว่า 3 ล้านล้านเยน หรือกว่า 670,000 ล้านบาท พลังประสานร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย ที่ได้จากการเจรจาควบรวมมีทั้งหมด 7 ด้าน เช่น การรวมกันของการทำงานด้านวิจัยและพัฒนา การผลิตที่ได้ขนาดดีที่สุด ซึ่งจะได้จากแพลทฟอร์มการผลิตยานยนต์ที่เป็นมาตรฐาน การเสริมความแข็งแกร่งด้านขีดความสามารถในการแข่งขันที่ได้จากเครือข่ายการผลิต และการมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles