สำนักงานศุลกากร ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รายงานว่า เดือนมีนาคมผ่านไป มีการนำเข้า ทองคำ แท่งจากประเทศสหรัฐอเมริกากลับเข้าสู่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์รวมจำนวนเป็น 25.5 ตัน ทำสถิติปริมาณนำเข้าทองคำสูงสุดในรอบ 13 เดือนผ่านมา และยังเป็นการนำเข้าทองคำเพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์อีก 13.4 ตัน ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์มีการนำเข้าทองคำจากสหรัฐอเมริการวมเป็นจำนวน 12.1 ตัน ในทางตรงกันข้ามการส่งออกทั้งทองคำแท่งไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาในเดือนมีนาคม พบว่ามีปริมาณลดลงมากถึง -32% อยู่ที่ 103.2 ตัน เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้
ด้านตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์นิวยอร์ก หรือโคเม็กซ์ (COMEX) ที่สหรัฐอเมริกา รายงานว่า คลังเก็บสินค้าทองคำแท่ง ที่ได้รับอนุญาตและรับรองโดยโคเม็กซ์ เปิดเผยว่ามีปริมาณทองคำแท่งขนออกเป็นวันที่แปดติดต่อกัน เป็นครั้งแรกในรอบ 14 เดือนผ่านมา หรือตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2024 เป็นต้นมา
ในไตรมาสที่ 4 ปีผ่านไป ซึ่งเป็นช่วงที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ปราศรัยหาเสียงเพื่อลงสมัครชิงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 และได้รับเลือกตั้งในเวลาต่อมาซึ่งได้ประกาศนโยบายและมาตรการภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้ระหว่างเดือนธันวาคม 2024 ถึงเดือนมีนาคม 2025 มีการขนส่งโลหะมีค่าหลายชนิดได้แก่ทองคำ โลหะเงิน และแพลตตินั่ม รวมเป็นมูลค่าสูงถึง 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือกว่า 2.72 ล้านล้านบาท ไปยังคลังเก็บสินค้าโลหะมีค่า ที่ได้รับอนุญาตและรับรองโดยโคเม็กซ์ในสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยว่า มาตรการขึ้นภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs ของสหรัฐอเมริกาได้ตัดรายการสินค้าในกลุ่มโลหะมีค่าออกไปเมื่อช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณขนส่งทองคำและโลหะมีค่าอื่นๆอย่างเร่งด่วนโดยใช้เครื่องบินมีความถี่และจำนวนลดลงต่อเนื่อง
นับตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2025 ที่ผ่านมาหรือหลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศบังคับใช้มาตรการภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายนนั้น พบว่า สต๊อกทองคำแท่งของตลาดซื้อขายทองคำโคเม็กซ์ นิวยอร์ก ลดลง 1.5 ล้านทรอยออนซ์ หรือมีมูลค่า 4,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 163,200 ล้านบาท มาเหลืออยู่ที่ 43.6 ล้านออนซ์ หรือ 1,357 ตัน หลังจากที่เคยมีสต๊อกทองคำพุ่งสูงขึ้นถึง 45.1 ล้านออนซ์ โดยพุ่งสูงขึ้นถึง 28 ล้านออนซ์ เมื่อเทียบจาก 17.1 ล้านออนซ์ในเดือนพฤศจิกายนปี 2024 หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนที่สี่ 47 ของสหรัฐสหรัฐอเมริกา