ศูนย์วิจัยกิกรไทย เปิดเผยว่า ในการประชุม กนง. วันที่ 7 ก.พ. นี้ ทางศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า กนง.จะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% เนื่องจากระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ทาง กนง. ประเมินว่าเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในบริบทปัจจุบัน ถึงแม้ว่าเงินเฟ้อจะติดลบต่อเนื่อง แต่มาจากผลของปัจจัยชั่วคราว โดยในเดือน ธ.ค. 66 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่สามที่ -0.83% เทียบจากช่วงเดียวกันในปีผ่านมาจากมาตรการลดค่าครองชีพด้านพลังงานของภาครัฐ ประกอบกับราคาสุกรและผักสดปรับลดลง ในขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานยังขยายตัวเล็กน้อยที่ 0.58% ทั้งนี้ กนง. ยังมีแนวโน้มที่จะปรับประมาณการ GDP ของปี 2566 ลง
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ดอกเบี้ยนโยบายมีโอกาสปรับลงในช่วงครึ่งหลังของปี มากขึ้น หากเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำกว่าที่ทางกนง. ประเมินไว้ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ที่ยังมีการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐล่าช้า และความไม่แน่นอนของมาตรการ Digital Wallet ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยมีแนวโน้ มลดลงต่อเนื่อง จากการสิ้นสุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลักและไทย
เมื่อวันที่ 31 มกราคมผ่านมา นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ กล่าวว่า เมื่อดูภาพรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ปี 2566 เชื่อว่าออกมาต่ำกว่าที่แบงก์ชาติคาดการณ์ไว้ ดังนั้น ในแง่การประมาณตัวเลขอัตราการขยายตัวของจีดีพี คงต้องมีการปรับจีดีพีลดลงต่ำกว่าคาดจากประมาณการณ์เดิมที่แบงก์ชาติคาดไว้ที่ 2.4%
ด้านภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอตัวลงทั้งภาคของการส่งออก ภาคการผลิตอุตสาหกรรม การลงทุนภาคเอกชนที่ชะลอตัวต่อเนื่อง ขณะที่การท่องเที่ยวแม้จะฟื้นตัวอย่างที่คาด แต่กลับพบว่ารายได้นักท่องเที่ยวยังต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้
โฆษกแบงก์ชาติ กล่าวต่อไปว่า ส่วนตัวเลขคาดการณ์จะลดต่ำกว่าระดับ 2% หรือใกล้เคียงกับตัวเลขแถลงของกระทรวงการคลังคาดการณ์ที่ 1.8% หรือไม่นั้น ต้องรอดูในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 7 ก.พ.นี้ ซึ่งการปรับจีดีพีปี 2566 ต่ำกว่าคาดจะมีผลต่อการปรับจีดีพีปี 2567 ด้วย จากคาดการณ์เดิมที่ 3.2% เพราะมีทั้งเรื่องของฐาน และแรงส่งเศรษฐกิจ
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2567 วันที่ 24 มกราคม 2567 นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงผลการประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2566 ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวที่ 1.8% ชะลอลงจากปี 2565 ที่ขยาย 2.6% เป็นตัวเลขที่หารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันแล้ว