ศูนย์วิจัยกสิกรไทยฟันธงแบงก์ชาติไม่ลดดอกเบี้ยปีนี้แน่ หั่นเป้าเศรษฐกิจไทยลงเหลือ 2.6%

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2024 ลงมาที่ 2.6% โดยไตรมาสที่เหลือของปีนี้ เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะเร่งตัวขึ้น เนื่องจากการเร่งจ่ายงบประมาณของภาครัฐ และการส่งออกที่ลับมาขยายตัวจากปัจจัยพื้นฐานที่ต่ำ

เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงแตะ 2.6% ตามการลงทุนและการใช้จ่ายภาครัฐที่ต่ำกว่าคาด ประกอบกับการส่งออกไทยที่มีแนวโน้มฟื้นตัวช้า การส่งออกไทยฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่คาดการณ์ จากการเผชิญปัญหาเชิงโครงสร้าง และความสามารถในการ แข่งขันที่ลดลง ขณะที่ ความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกประเทศยังมีอยู่

ด้านกนง. ธนาคารแห่งประเทศไทย มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.50% ไปตลอดทั้งปี 2024 ท่ามกลางแรงกดดันเงินเฟ้อที่มีเพิ่มขึ้น และแรงกดดันจากนโยบายการเงินทั่วโลกที่ตึงตัวนานกว่าคาด รวมถึงการส่งสัญญาณของ กนง.ที่เข้มงวดกว่าที่คาดการณ์

ความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยในตลาดโลกที่ลดลง ส่งผลให้การส่งออกไทยอาจไม่ได้รับอานิสงส์จากการค้าโลกที่ฟื้นตัวในปีนี้เท่าที่ควร โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้า อิเล็กทรอนิกส์ที่อานิสงส์ตามวัฏจักรของโลกอย่างจํากัดโดยในช่วง4เดือนแรกของปี 2024 การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไทยขยายตัวได้ต่ำกว่ากลุ่มประเทศที่ส่งออกสินค้า อิเล็กทรอนิกส์หลัก ได้แก่ ไต้หวัน และเกาหลีใต้

นอกจากนี้ ความเสี่ยงจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ยังคงมีอยู่ ผลให้ต้นทุนการขนส่งสินค้ายังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับผลจากมาตรการปรับขึ้นภาษีนําเข้าสินค้าจีนของสหรัฐล่าสุดจึงมีการเร่งนำเข้าสินค้าจีนในตลาดสหรัฐมากขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนค่าขนส่งเริ่มกลับมาปรับสูงขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าระดับต้นทุนค่าขนส่งในปัจจุบัน ยังอยู่ในระดับที่จัดการได้ และต่ำกว่าจุดสูงสุดในเดือนม..67 ที่ความขัดแย้งในทะเลแดงปะทุขึ้นมา

สัดส่วนการส่งออกรถยนต์ไทยไปตลาดหลักอย่างอาเซียนในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2024 ลดลงอย่างมีนัยสําคัญ จากอุปสงค์ที่ลดลง และการส่งออกรถยนต์จีนที่เข้าไปยังตลาดดังกล่าวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ภาคการผลิตไทยยังได้รับผลกระทบจากการเข้ามาตีตลาดของสนิ ค้าจีนราคาถูก โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ด้านภาคการผลิตภาคอุตสาหกรรมไทยกลับมาขยายตัวครั้งแรก หลังหดตัวติดต่อกัน 18 เดือน โดยการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าอุปโภคบริโภคยังซบเซา(มีต่อหน้า

ขณะที่ ผลผลิตทางการเกษตรในปี 2024 อาจได้รับแรงกดดันจากสภาพอากาศที่แปรปรวน คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก โดยสภาพอากาศที่ร้อนจัดได้ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรในไตรมาส 1/2024 ให้ ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า อาทิ ข้าว มันสําปะหลัง ทุเรียน และคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางเกษตรบางส่วนในไตรมาส 2/2567

ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ภาวะลานีญาอาจส่งผลให้เกิดฝนตกชุกและอุณหภูมิปรับลดลง แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดภาวะน้ำท่วมขังได้ ในบางพื้นที่ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรได้โดยเฉพาะกลุ่มที่มีการออกผลผลิตส่วนใหญ่ในช่วงปลายปี ได้แก่ ข้าวนาปี ยางพารา

ด้านการใช้จ่ายภาครัฐ ด้านการลงทุนเริ่มส่งสัญญาณเร่งขึ้นเดือนพ.. 2024 และคาดว่าจะมีการเบิกจ่ายเต็มที่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 แต่โดยรวมยังอยู่ระดับต่ำ

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางในโลกตะวันตก พบว่า เมื่อวานนี้ 5 มิถุนายน 2024 ธนาคารกลางประเทศแคนาดามีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวซึ่งอยู่ในระดับ 5% ทำสถิติอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสูงสุดในรอบกว่า 20 ปีลงมาแตะที่ระดับ 4.75% นับเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่ผ่านมารวมถึงสิ้นสุดการตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นมาเป็นเวลานานถึง 1 ปีเต็ม สาเหตุจากภาวะอัตราเงินเฟ้อในประเทศแคนาดาผ่อนคลายลงและมีสัญญาณในทิศทางบวกอย่างต่อเนื่อง

การปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางแคนาดาในครั้งนี้กลายเป็นธนาคารกลางแห่งที่สามในโลกตะวันตกที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงโดยธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์เป็นธนาคารกลางแรกที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเหนือความคาดหมายตามด้วยธนาคารกลางประเทศสวีเดน

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles