สงครามการค้ารอบใหม่ส่งผลลบเศรษฐกิจไทย เสี่ยงต่อส่งออกปีนี้ โดนทั้งตรงกับ 3 กลุ่มอุตสาหกรรม โดนทางอ้อมกับ 4 กลุ่มอุตสาหกรรมรับสินค้าถูกจากจีนทะลักอีก

สงครามการค้ารอบใหม่ส่งผลลบ เศรษฐกิจไทย เสี่ยงต่อส่งออกปีนี้ โดนทั้งตรงกับ 3 กลุ่มอุตสาหกรรม โดนทางอ้อมกับ 4 กลุ่มอุตสาหกรรมรับสินค้าถูกจากจีนทะลักอีก

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า สงครามการค้ารอบใหม่คาดว่าจะส่งผลสุทธิเป็นลบต่อเศรษฐกิจไทย และเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อแนวโน้มการส่งออกในปี 2568 โดยประเทศไทยเป็น 1 ใน 15 ประเทศที่สหรัฐฯ มีการขาดดุลการค้าด้วยสูงสุด ทำให้มีความเสี่ยงจะโดนมาตรการการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลกระทบทั้งทางตรงจากการส่งออกสินค้าไปตลาดสหรัฐฯ ลดลง และทางอ้อมจากการแข่งขันที่สูงขึ้นกับสินค้าจีนทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก

ท่ามกลางสงครามการค้ารอบใหม่คาดว่าจะมีผลสุทธิเป็นลบต่อเศรษฐกิจไทยนั้น ส่งผลให้การส่งออกไทยในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงที่ราว 2.5% แม้จะได้รับแรงหนุนบางส่วนจากการเร่งนำเข้าสินค้าก่อนมีการปรับขึ้นภาษีนำเข้า และวัฏจักรขาขึ้นของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ก็ตาม สำหรับความคาดหวังต่อผลบวกจากสงครามการค้ารอบใหม่ที่จะส่งผลต่อเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติให้เข้ามาเพิ่ม ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อนิคมอุตสาหกรรม อาคารสำนักงานนั้น ยังคงมีความไม่แน่นอน ต้องรอการวางกลยุทธ์ของซัพพลายเชนต่างๆ และจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการดึงดูด FDI ของไทยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคด้วย

ผลกระทบทางตรง คือ การส่งออกไทยไปยังสหรัฐฯ คาดว่าจะชะลอลง ซึ่งสินค้าไทยที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากสุด คือ กลุ่มที่ไทยได้รับอานิงส์จากการเข้ามาลงทุนหรือย้ายฐานการผลิตของจีนมายังไทยในสงครามการค้ารอบแรก อาทิ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โซลาร์เซลล์ และยางรถยนต์

ขณะเดียวกัน ไทยอาจถูกเรียกร้องให้นำเข้าจากสหรัฐฯ มากขึ้น ในกลุ่มที่ไทยนำเข้าจากสหรัฐฯน้อยเมื่อเทียบกับการนำเข้าจากโลก ยิ่งหากเป็นสินค้าที่สหรัฐฯมีความได้เปรียบในด้านการผลิตและมีการส่งออกไปยังตลาดโลกเป็นอันดับต้นๆ เช่น ปิโตรเลียม อุปกรณ์การแพทย์ ตลอดจนสินค้าที่ไทยยังไม่ได้เปิดตลาดเต็มที่อย่างสินค้าเกษตร อาทิ ถั่วเหลือง ข้าวสาลี เนื้อสัตว์ เป็นต้น

ผลกระทบทางอ้อม คือการแข่งขันกับสินค้าจีนทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก ในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นการเข้ามาในไทยของสินค้าจีนที่มีข้อได้เปรียบด้านราคาอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนหนึ่งมาจากกำลังผลิตส่วนเกินของอุตสาหกรรมจีนที่มีมาก ส่งผลต่อการนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มขึ้น และมีผลกลับมายังภาคผลิตของไทย อาทิ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เหล็ก และเสื้อผ้า เป็นต้น และหากสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนในอัตรา 60% ภาคการผลิตไทยคงจะได้รับผลกระทบเพิ่มเติม ในขณะเดียวกัน สินค้าส่งออกไทยจะต้องเผชิญการแข่งขันที่สูงขึ้นจากการไหลเข้ามาของสินค้าจีนในตลาดภูมิภาค โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์และชิ้นส่วน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนรถยนต์ อย่างไรก็ดี ผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ คงขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาและขนาดการปรับขึ้นภาษี ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศและประเภทสินค้า

นอกจากนี้ ภาคบริการอย่างการท่องเที่ยว ก็คงจะได้รับผลกระทบมากขึ้นหากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงแรงกว่าคาด เนื่องจากไทยพึ่งพาตลาดนักท่องเที่ยวจีนเป็นอันดับหนึ่งของตลาดต่างชาติเที่ยวไทย

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles