นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า บริการข้อมูล “คิดค้า Briefing” ที่นำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจการค้าเชิงลึกในรูปแบบของการเล่าเรื่อง (Data Storytelling) ที่เข้าใจง่ายและใช้งานสะดวก ได้เปิดตัวบริการใหม่ ในหัวข้อ “ปักหมุดสินค้าไทยรุกตลาดจีน” ที่นำเสนอข้อมูลการค้าเชิงลึกในระดับมณฑลของจีน เพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยตัดสินใจเชิงนโยบาย ปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ และเพิ่มโอกาสในการส่งออกไปตลาดจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถเข้าใช้งานได้แล้วบนเว็บไซต์ “คิดค้า.com”
สำหรับบริการข้อมูล “ปักหมุดสินค้าไทยรุกตลาดจีน” มุ่งเน้นการเพิ่มโอกาสทางการค้าและขยายตลาดสู่พื้นที่ภูมิภาคต่าง ๆ ของจีน ที่มีความแตกต่างกันทั้งขนาดพื้นที่ จำนวนประชากร ระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนวิถีชีวิตและพฤติกรรมการอุปโภคบริโภคของผู้คน โดยนำเสนอข้อมูลในระดับมณฑล เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงข้อมูลสำคัญ และใช้ประโยชน์ในการวางแผนการค้าในตลาดจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยเอกสารที่สามารถดาวโหลดได้ทันที ประกอบด้วยพื้นที่ ขนาดเศรษฐกิจ จำนวนประชากร รายได้ต่อหัว และการค้าระหว่างไทยและแต่ละมณฑล การชี้เป้า เตือนภัย สถานการณ์นำเข้าสินค้าจากไทยในมณฑลต่าง ๆ ของจีน โดยแบ่งเป็น 6 กลุ่ม ตามแนวโน้มการนำเข้าสินค้าและส่วนแบ่งตลาดของไทยในแต่ละมณฑล เพื่อสนับสนุนการวางแผนทางการค้าอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมไปถึงข้อมูลเชิงลึกด้านผลไม้ส่งออกสำคัญของไทย ซึ่งนำเสนอการเปรียบเทียบสถานการณ์ทางการค้าของผลไม้ไทยชนิดต่าง ๆ กับประเทศคู่แข่ง
ทั้งนี้ มีตัวอย่างข้อมูลที่น่าสนใจ เช่น การค้าไทย-จีน ปี 2567 มีมูลค่า 134,236 ล้านเหรียญสหรัฐ มณฑลที่มีมูลค่าการค้ากับไทยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ กวางตุ้ง มูลค่า 31,488.21 ล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมา คือ เจียงซู มูลค่า 18,871.31 ล้านเหรียญสหรัฐ และเจ้อเจียง มูลค่า 17,333.47 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนมณฑลดาวรุ่งที่มีความต้องการนำเข้าสินค้าไทยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ มณฑลเซี่ยงไฮ้ นำเข้า 6,347.01 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 7.99% ตามด้วยเสฉวน มูลค่า 714.82 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 47.65% และหูเป่ย มูลค่า 683.11 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 79.86%
ส่วนกลุ่มสินค้าไทยที่จีนนำเข้ามูลค่าสูงสุด 3 อันดับแรก คือ กลุ่มผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง โดยมณฑลดาวรุ่งที่น่าสนใจ คือ มณฑลหูเป่ย มูลค่า 175.18 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 367.15% และไห่หนาน 57.69 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 45.57% กลุ่มเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มณฑลที่น่าสนใจ คือ เจียงซู มูลค่า 830.30 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 10.94% และเซี่ยงไฮ้ 459.99 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 45.97% และกลุ่มแผงวงจรไฟฟ้า ตลาดที่น่าสนใจ คือ มณฑลฝูเจี้ยน มูลค่า 69.46 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 12.55%
สินค้าดาวรุ่งของไทยที่จีนนำเข้าเพิ่มขึ้น คือ สินค้าอุตสาหกรรมอื่น ๆ มูลค่า 1,976.26 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 9.70% โดยมณฑลที่น่าสนใจ คือ มณฑลเจียงซู 364.15 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 20.19% ถัดมา คือ สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรอื่น ๆ 1,315.29 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 30.08% ตลาดที่น่าสนใจ คือ เจ้อเจียง 334.85 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 98.48% และไม้แปรรูป 1,246.99 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 25.75% มณฑลที่น่าจับตามอง คือ มณฑลกวางตุ้ง 940.72 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 31.51%
ทางด้านสถานการณ์ผลไม้ไทยในตลาดจีน พบว่า ไทยยังครองตำแหน่งแหล่งนำเข้าผลไม้อันดับหนึ่งของจีน ด้วยส่วนแบ่งตลาด 52.71% โดยผลไม้ไทยที่จีนนำเข้ามูลค่าสูงสุด ได้แก่ ทุเรียนสด มังคุดสดหรือแห้ง และลำไยสด รวมทั้งยังมีผลไม้ไทยชนิดอื่นที่ได้รับความสนใจจากจีนเช่นกัน เช่น เกรปฟรุ๊ตและส้มโอ เพิ่ม 16.12% และมีหลายมณฑลที่นำเข้าผลไม้ไทยเพิ่มขึ้น เช่น มณฑลเสฉวน มูลค่า 269.36 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 79.0% เซี่ยงไฮ้ 267.43 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 11.89% และเหอเป่ย 228.95 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 57.75%
อย่างไรก็ดี การจัดทำบริการข้อมูล “ปักหมุดสินค้าไทยรุกตลาดจีน” เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานของกระทรวงพาณิชย์ ที่มุ่งส่งเสริมเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทยและจีน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ โดยจีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยมาเป็นเวลากว่าทศวรรษ มีมูลค่าการค้าระหว่างกันสูงสุดต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา และในปี 2567 จีนมีสัดส่วนการค้า คิดเป็นประมาณร้อยละ 19 ของมูลค่าการค้าทั้งหมดของไทย