สปป.ลาวโชว์แผนดันเศรษฐกิจโตอย่างน้อยปีละ 5% ติดต่อกัน 5 ปี เริ่มปี 2026 ต้อนรับปีหลุดพ้นประเทศพัฒนาน้อยที่สุดก่อนกัมพูชา

สปป.ลาว โชว์แผนดัน เศรษฐกิจ โตอย่างน้อยปีละ 5% ติดต่อกัน 5 ปี เริ่มปี 2026 ต้อนรับปีหลุดพ้นประเทศพัฒนาน้อยที่สุดก่อนกัมพูชา

รัฐบาลสปป.ลาว เปิดเผยว่า เตรียมใช้นโยบายและแผนกลยุทธ์พัฒนาเศรษฐกิจ 5 ปี ที่มีเป้าหมายสำคัญในการขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจสปป.ลาวเติบโตอย่างน้อยปีละ 5% ในระหว่างปี 2026-2030 ปรับปรุงทุกภาคส่วนสําคัญให้ทันสมัย หลังจากเศรษฐกิจสปป.ลาวฟื้นตัวจากความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อที่สูงเป็นเวลาหลายปีผ่านมา สำหรับหัวใจของแผนดังกล่าวจะเน้นการเสริมสร้างภาคพลังงาน การปรับปรุงการเกษตรให้ทันสมัย การพัฒนาการท่องเที่ยว การลงทุนในทุนมนุษย์ และการเร่งเศรษฐกิจดิจิทัล

สำหรับผลผลิตในภาคอุตสาหกรรมของสปป.ลาว คาดว่าจะเติบโตที่ 5.1% ซึ่งคิดเป็น 31.5% ของจีดีพีประเทศ ภาคบริการคาดว่าจะเติบโต 5.6% คิดเป็น 36.8% ของจีดีพีประเทศ รายได้จากภาษีศุลกากรและภาษี คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.6% รัฐบาลสปป.ลาว วางแผนที่จะระดมการลงทุน 523,504 ล้านกีบ หรือ 24,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 798,000 ล้านบาท ซึ่งเทียบเท่ากับ 20.2% ของจีดีพีประเทศ ที่คาดการณ์ไว้ในแผน 5 ปี หากดําเนินการตามแผนสําเร็จ รายได้รวมประชาชาติต่อหัวคาดว่าจะสูงถึง 60.3 ล้านกีบ หรือ 2,800 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 92,400 บาทต่อหัว โดยจีดีพีต่อหัวในภาพรวม คาดว่าจะอยู่ที่ 64.3 ล้านกีบ หรือ 2,983 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 98,440 บาท ภายในปี 2030

ปัจจุบัน สปป.ลาวเผชิญภาวะอัตราเงินเฟ้อลดลง แต่ค่าครองชีพยังคงสูง โดยอัตราเงินเฟ้อลดลงจาก 15.5% ในเดือนมกราคมมาอยู่ที่ 12.7% ในเดือนกุมภาพันธ์ ในเดือนมีนาคมลดลงมาอยู่ที่ 11.2% ต่อเนื่องในเดือนเมษายนลงมาแตะที่ 11.1% และในเดือนพฤษภาคมลดต่ำลงกว่า 2 หลัก มาอยู่ที่ 8.3% อย่างไรก็ตาม ค่าครองชีพยังคงสูง เนื่องจากราคาสินค้าในประเทศเพิ่มขึ้น 8.7% ในขณะที่สินค้านําเข้าเพิ่ม 7.5% ในช่วงเวลาเดียวกัน

การลงทุนมุ่งเป้าไปที่การเพิ่มรายได้ การส่งออก การพัฒนาพลังงานเป็นเสาหลักของกลยุทธ์ รัฐบาลตั้งเป้าที่จะลดต้นทุนพลังงานในประเทศและขยายความสามารถในการส่งออกผ่านการผสมผสานแหล่งพลังงานที่หลากหลาย นอกจากไฟฟ้าพลังน้ําแล้ว การลงทุนมุ่งเน้นไปที่พลังงานแสงอาทิตย์ ลม ชีวมวล และพลังงานนิวเคลียร์ที่อาจเกิดขึ้น

การปรับปรุงการเชื่อมต่อระดับภูมิภาค โครงการที่วางแผนไว้รวมถึงการก่อสร้างทางด่วนและทางรถไฟที่เชื่อมโยงลาวกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะจีน เวียดนาม และกัมพูชา ทางรถไฟสายใหม่ที่เสนอรวมถึงสายหนึ่งที่เชื่อมต่อเวียงจันทน์กับท่าเรือเวียดนาม และอีกสายที่ขยายไปยังลาวตอนใต้ใกล้ชายแดนกัมพูชา โครงการเหล่านี้คาดว่าจะปรับปรุงโลจิสติกส์การค้า สนับสนุนการท่องเที่ยว และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของการส่งออกของลาว

เศรษฐกิจดิจิทัลจะต้องขยายตัวด้วยการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตด้วยการขยายการเข้าถึง และการส่งมอบบริการทั่วประเทศ ในขณะเดียวกัน การปฏิรูปการศึกษาจะแก้ไขปัญหาที่มีมาอย่างยาวนาน เช่น อัตราการออกจากโรงเรียน และมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพได้อย่างเท่าเทียมกัน

เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2025 ผ่านมา นายทองสะหวัน พมวิหาน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว และนายราบับ ฟาติมา รองเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ร่วมแถลงเปิดเผยว่า ประเทศสปป.ลาวผ่านเกณฑ์การประเมินพ้นจากสถานะประเทศพัฒนาน้อยที่สุด หรือ Least Developing Country หรือแอลดีซี โดยผ่านการพิจารณาเข้ากฎเกณฑ์เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันในปี 2024 ผ่านไป ส่งผลให้ประเทศสปป.ลาว จะหลุดพ้นจากสถานะประเทศกำลังพัฒนาน้อยที่สุดภายในปี 2026 ประเทศสปป.ลาว สามารถพัฒนาได้ถึงเกณฑ์ขององค์การสหประชาชาติ ได้แก่ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนในทรัพยากรมนุษย์ และการส่งเสริมการผลิตเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และการพึ่งพาตนเอง

สำหรับในกลุ่มอาเซียน พบว่ามี 4 ประเทศที่อยู่ในกลุ่มบัน ยูเอ็นจัดประเทศที่กำลังพัฒนาน้อยที่สุด หรือแอลดีซี คือ สปป.ลาว กัมพูชา เมียนมา และติมอร์-เลสเต้ ดังนั้น ภายในปี 2016 ประเทศสปป.ลาว จะกลายเป็นประเทศแรกใน 4 ประเทศดังกล่าวที่หลุดพ้นออกจากสถานะประเทศที่กำลังพัฒนาน้อยที่สุด หรือแอลดีซี

องค์การสหประชาชาติกำหนดเกณฑ์มาตรฐานในการจัดประเทศให้อยู่ในกลุ่มแอลดีซี เช่น ด้านรายได้ กำหนดการประเมินจากรายได้ประชาชนต่อหัว (Gross National Income) หรือ GNI ในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐช่วง 3 ปีติดต่อกัน หากรายได้ดังกล่าวเท่ากับหรือน้อยกว่า 1,088 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 36,450 บาท จัดเป็นประเทศในกลุ่มกำลังพัฒนาน้อยที่สุด แต่หากสูงกว่า 1,306 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 43,750 บาท จะพ้นจากสถานะดังกล่าว นอกจากนี้ ยูเอ็นจะทำการประเมินสถานะของประเทศในกลุ่มแอลดีซีทุกๆ 3 ปี

ปัจจุบัน ยูเอ็นจัดประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด หรือแอลดีซี มีทั้งหมด 44 ประเทศกระจายในแต่ละภูมิภาคของโลก ประกอบด้วย แอฟริกา 32 ประเทศ เอเชีย 8 ประเทศ (รวมสปป.ลาว) แคริบเบียน 1 ประเทศ และแปซิฟิก 3 ประเทศ ในเอเชียนั้น ได้แก่ อัฟกานิสถาน บังคลาเทศ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เนปาล ติมอร์-เลสเต้ และเยเมน ในปี 2024 มี 1 ประเทศที่พ้นจากกลุ่มประเทศแอลดีซี คือ เซาตูเมและปรินซิปี อยู่ในแอฟริกากลาง

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles