นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ เปิดเผยว่า หนี้สินครัวเรือน ไตรมาส 1/2568 หดตัวอยู่ที่ร้อยละ 0.1 จากการขยายตัวร้อยละ 0.2 ของไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นการหดตัวเป็นครั้งแรก โดยธนาคารพาณิชย์ที่เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดสินเชื่อมีการหดตัวเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกัน ทำให้สัดส่วนหนี้สินครัวเรือนต่อจีดีพี ปรับลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 87.4 เมื่อเปรียบเทียบกับรอยละ 88.4 ของไตรมาสที่ผ่านมา ด้านความสามารถในการชำระหนี้ครัวเรือนยังมีปัญหา โดยหนี้เสีย (NPLs) มีมูลค่า 1.19 ล้านล้านบาท สัดส่วนหนี้ NPLs ต่อสินเชื่อรวมลดลงในเกือบทุกประเภทสินเชื่อ ยกเว้นสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อบัตรเครดิต
โดยหนี้ครัวเรือนเป็นระเบิดเวลาตัวหนึ่ง การแก้ปัญหามีความซับซ้อนมากขึ้น จากการกู้เงินนอกระบบผ่านแอปพลิเคชั่นรวมถึงออนไลน์ ซึ่งต้องเร่งปราบปรามอย่างจริงจัง เงินกู้นอกระบบอาจมีแนวโน้มสูงขึ้น การใช้บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง ที่อาจกระตุ้นให้ผู้บริโภคก่อหนี้เกินตัว
ส่วนการจ้างงานไตรมาส 2 ตัวเลขผู้มีงานทำอยู่ที่ 39.5 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 0.02 จากไตรมาส 2 ของปี 2567 ส่วนอัตราการว่างงานลดลง โดยอยู่ที่ร้อยละ 0.91 จากไตรมาส 2 ปี 2567 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 1.07 หรือมีผู้ว่างงาน 3.7 แสนคน โดยการจ้างงานในสาขานอกภาคเกษตรกรรมอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน ขณะที่ภาคเกษตรกรรมยังคงหดตัวต่อเนื่อง สาขาที่การจ้างงานขยายตัวมากที่สุด คือ สาขาขนส่ง/เก็บสินค้า และสาขาโรงแรม/ภัตตาคาร