ดร.เจริญ แก้วสุกใส ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนกำลังเฝ้าติดตามและเฝ้าระวังสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการผลิตอาหารจากประเทศจีน ได้แก่ เครื่องปรุงรส บะหมี่ชนิดต่าง ๆ เครื่องดื่ม ผักผลไม้อบแห้ง และขนมขบเคี้ยวหลากหลายรูปแบบ ในขณะเดียวกัน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกำลังติดตามการย้ายโรงงานจากจีนมาตั้งฐานผลิตในไทย จะเป็นไปได้มากน้อยหรือไหม จะมีจำนวนโรงงานมากน้อยเพียงใด เมื่อได้ข้อมูลที่ชัดเจนแล้ว ภาคอุตสาหกรรมจะต้องมาวางกลยุทธ์ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการต่อต้าน หรืออาจจะต้องเป็นพันธมิตร หรือปรับวิธีการอย่างไรกันต่อไป
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจึงอยากให้รัฐบาลทุกหน่วยงาน เช่น กรมปศุสัตว์ กรมประมง คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และกระทรวงสาธารณสุข เผ้าติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มทุนจีน และจะต้องดูแลสินค้าที่อาจกระทบกับการผลิตอาหารของไทยได้แก่ กลุ่มอาหารสำเร็จรูป จึงอยากขอให้เข้าไปตรวจสอบถึงต้นทางที่โรงงานผลิตอาหารอย่างละเอียดว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่
เป็นที่ทราบกันดีว่าสินค้าที่นำเข้าจากจีนส่วนใหญ่จะมีราคาถูกมาก หากคุณภาพไม่ดีก็จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนไทย และจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปต่อธุรกิจ SMEs สายอาหาร สำหรับตลาดอาหารในประเทศไทยนั้น ในปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท