สมาคมผู้ค้าปลีกไทยชี้ ธุรกิจนอมินีจีนสวมสิทธิคนไทยทุกระดับ ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต โรงแรมศูนย์เหรียญ หนีสงครามภาษีดันสินค้าจีนเข้าไทยเพิ่ม เจ้าของกิจการคนไทยจ่อปิดตัว-เลิกจ้างคน สินค้าราคาถูกด้อยคุณภาพโดยเฉพาะจากจีนทะลักผ่านอีคอมเมิร์ซ

สมาคมผู้ค้าปลีก ไทยชี้ ธุรกิจนอมินีจีน สวมสิทธิคนไทยทุกระดับ ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต โรงแรมศูนย์เหรียญ หนีสงครามภาษีดันสินค้าจีนเข้าไทยเพิ่ม เจ้าของกิจการคนไทยจ่อปิดตัว-เลิกจ้างคน สินค้าราคาถูกด้อยคุณภาพโดยเฉพาะจากจีนทะลักผ่านอีคอมเมิร์ซ

นายณัฐ วงศ์พานิช ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า ประเทศจีนเป็นประเทศที่ถูกขึ้นภาษีนำเข้าสะสมมากมากที่สุด ทำให้จีนต้องหาตลาดทดแทน ปัญหาการผลิตสินค้าเกินความต้องการภายในประเทศจีน ยิ่งทำให้จีนจำเป็นต้องระบายสินค้าไปต่างประเทศ ประเทศเป้าหมายของจีนเป็นประเทศใกล้เคียงกับจีน รวมถึงไทยที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยจนถึงขั้นต้องปิดกิจการหรือมีการเลิกจ้างแรงงาน สำหรับสินค้าจีนที่ทะลักเข้ามาไทยจะเป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และอาหาร เป็นต้น สินค้าจีนนั้นได้เปรียบในเรื่องต้นทุน ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยไม่ควรแข่งที่ราคา แต่ต้องสู้ที่ความแตกต่างและคุณภาพ

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs ที่มีมากกว่า 3.3 ล้านราย ยังต้องเผชิญความเสี่ยงจากการแข่งขันรุนแรง โดยเฉพาะสินค้านำเข้าราคาถูกและด้อยคุณภาพจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีนที่เข้ามาผ่านทางอีคอมเมิร์ซและผู้ประกอบการรายย่อยข้ามแดน

รัฐบาลไทยควรมีมาตรการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว เช่น การจัดเก็บภาษีตั้งแต่บาทแรกของสินค้าออนไลน์นำเข้าเป็นการถาวร ซึ่งในช่วงที่ผ่านมานั้น สินค้าไม่เกิน 1,500 บาทจะได้รับการยกเว้นภาษี การออกมาตรการควบคุมสินค้าด้อยมาตรฐานจากแพลตฟอร์มออนไลน์ และการตรวจสอบสินค้านำเข้า 100% แทนการสุ่มตรวจ รวมถึงปราบปรามธุรกิจนอมินี จำเป็นต้องเร่งหามาตรการเชิงรุกในการจัดการธุรกิจนอมินีที่สวมสิทธิ์คนไทยในทุกระดับ ตั้งแต่รายย่อยถึงรายใหญ่ ครอบคลุมธุรกิจในหลายรูปแบบ เช่น ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต และโรงแรมศูนย์เหรียญ เพื่อยับยั้งการรั่วไหลของเม็ดเงิน และผลักดันให้รายได้จากภาคค้าปลีกหมุนเวียนกลับสู่ระบบเศรษฐกิจและผู้ประกอบการไทย

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles