นายสุโรจน์ แสงสนิท นายกสมาคมยายนยนต์ไฟฟ้ายอมรับว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าปีนี้ จะไปไม่ถึงเป้าที่ 100,000 คัน อย่างเก่งน่าจะได้ราว 80,000 คันเท่านั้น หรือ หลุดจากเป้าไป 20% เนื่องจากไฟแนนซ์เพิ่มความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ ซึ่งก็มีต้นตอมาจากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูง และวันนี้การใช้จ่ายของประชาชน และการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน ก็ถูกล็อคไว้ด้วยหนี้ครัวเรือน ดังนั้นรัฐบาลจะต้องเร่งเข้ามาปลด ล็อคโดยเร่งด่วน
นอกจากนี้ อยากเห็นแผนการลงทุนยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเพื่อการส่งออก โดยกำหนดให้ใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ ซึ่งจะตอบโจทย์ในระยะยาว และแก้ปัญหาการดัมป์ราคาได้ โดยวันนี้มีค่ายรถยนต์ไฟฟ้า เข้ามาใช้ไทยตั้งฐานการผลิตแล้ว 7 ราย ถ้าไม่มีแนวทางส่งเสริมการส่งออก ก็มีความเป็นไปได้ที่ 7 ค่ายจะถอนฐานกลับ แม้ว่าจะต้องเสียค่าปรับจากมาตรการส่งเสริมการผลิตรถอีวีก็ตาม
เบื้องต้นจะใช้การสื่อสารผ่าน บอร์ด อีวี ที่มีเลขาฯ บีโอไอ เป็นประธาน ส่งเสียงไปถึงรัฐบาล พร้อมทวงถามมาตรการที่เคยขอไปสมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ในการขอขยายเวลามาตรการส่งเสริมการลงทุนผลิตแบตเตอรี่ระดับเซลล์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าและระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) เพื่อดึงดูดให้ผู้ผลิตแบตเตอรี่ระดับเซลล์ ซึ่งเป็นการผลิตต้นน้ำที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเข้ามาลงทุนในประเทศไทย
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวในวันนี้ตามสื่อโซเชียลในไทยว่า รายงานว่า โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า จังหวัดปราจีนบุรี ได้ยุติการผลิตรถอีวีรุ่น Honda e:N1 ซึ่งได้ดำเนินการผลิตที่โรงงานฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย จ.ปราจีนบุรี มีจำนวนทั้งหมด 420 คัน แต่ปัจจุบันยุติการผลิตไปเรียบร้อยแล้ว โดยจะนำเข้ารถอีวีที่ผลิตจากโรงงานร่วมทุนของฮอนด้าในจีนมายังประเทศไทย