สมาพันธ์เครือข่าย ฯ ชี้ กว่า 23.7% พบครัวเรือนไทยยังสูบบุหรี่ในบ้าน เยาวชนไทยอย่างน้อยกว่า 5 ล้านคนได้รับควันบุหรี่มือสอง จับมือ พม. ชูแนวคิด “No E-cig Home: บ้านปลอดภัย ครอบครัวปลอดบุหรี่ไฟฟ้า” 

วันนี้ (29 ก.ค.68)  ที่อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วย ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ประธานสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่  นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว และ ศ.เกียรติคุณ นพ.รณชัย คงสกนธ์  เลขาธิการสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่  ร่วมแถลงข่าวพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกันในการดำเนินการพัฒนาครอบครัวไทยไร้บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า

นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า สถาบันครอบครัวต้องเผชิญกับปัญหาความรุนแรงในครอบครัวในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหายาเสพติดประเภทใหม่ ๆ ได้แก่ ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งมาในหลากหลายรูปแบบ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในทุกระดับ อันส่งผลกระทบต่อสมาชิกในครอบครัวทุกช่วงวัย เนื่องด้วยปัญหาบุหรี่ไฟฟ้ามีส่งผลกระทบต่อทั้งเด็ก เยาวชน และบุคคลในครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ซึ่งมีพันธกิจที่สำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพคนและสร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว จึงเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว และเห็นความสำคัญขององค์กรเครือข่ายในการร่วมดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า จึงร่วมกับสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่จัดทำบันทึกความเข้าใจร่วมกันในการดำเนินการพัฒนาครอบครัวไทยไร้บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า และขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรภาคเอกชน และประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ร่วมแสดงพลังทำให้พื้นที่ครอบครัวของตนเองกลายเป็นพื้นที่บ้านปลอดภัย ปราศจากบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าว

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงสมศรี เผ่าสวัสดิ์ ประธานสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายรูปแบบใหม่จากการระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าและนิโคตินรูปแบบต่าง ๆ  ที่มาพร้อมกับกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกซึ่งมุ่งเป้าไปที่เด็กและเยาวชนโดยตรง สถานการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนรุ่นใหม่อย่างรุนแรง และหากไม่เร่งดำเนินการอย่างจริงจัง อาจกลายเป็นวิกฤตสุขภาพในอนาคตอันใกล้ “บทบาทของสมาพันธ์ฯ จึงมีความสำคัญยิ่งในการขับเคลื่อนงานป้องกันการเริ่มต้นสูบบุหรี่ในเด็กและเยาวชน โดยอาศัยกลยุทธ์หลากหลาย ทั้งการให้ความรู้ในสถานศึกษา การสร้างค่านิยมปลอดบุหรี่ในสังคม การเสริมพลังให้ครอบครัว ชุมชน และสถานบริการสุขภาพ ตลอดจนการสื่อสารเชิงรุก เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงพิษภัยของยาสูบในทุกมิติ” ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี กล่าว

นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กล่าวว่า  สถานการณ์ครอบครัวไทยในปี 2567 ประเภทของครอบครัวไทยส่วนใหญ่เป็นประเภทครอบครัวเดี่ยว และมีจำนวนการจดทะเบียนสมรสลดลงอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับการจดทะเบียนหย่า ซึ่งมีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้น โดยการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และด้านอื่น ๆ เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อครอบครัวไทย ด้วยปัญหาความรุนแรงจากยาเสพติดในรูปแบบใหม่ บุหรี่ไฟฟ้า ที่ส่งผลกระทบต่อครอบครัวไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เห็นว่า การป้องกันและแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าต้องเริ่มต้นที่การสร้างความเข้มแข็งให้แก่สถาบันครอบครัว โดยมีการขับเคลื่อนกลไกการดำเนินงานด้านครอบครัวทั้งในระดับประเทศ ระดับจังหวัด และในระดับพื้นที่ รวมทั้งได้ร่วมกับกลไกภาคีเครือข่ายทั้งในการส่งเสริมสถาบันครอบครัวให้มีความเข้มแข็ง โดยเฉพาะการร่วมมือกับสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ในการขับเคลื่อนการพัฒนาครอบครัวไทยให้ไร้บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า  การดำเนินการเสริมสร้างสถาบันครอบครัวของกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เป็นไปเพื่อมุ่งจุดมุ่งหมายสูงสุด คือ “ครอบครัวอบอุ่น สังคมเป็นสุข ปราศจากความรุนแรง” อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กล่าว

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์รณชัย คงสกนธ์ เลขาธิการสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ กล่าวว่า ข้อมูลล่าสุดพบว่า ร้อยละ 23.7 ของครัวเรือนไทยยังคงมีการสูบบุหรี่ภายในบ้าน ส่งผลให้เด็กและเยาวชนไทยอย่างน้อยกว่า 5 ล้านคนได้รับควันบุหรี่มือสองในบ้าน ซึ่งไม่เพียงเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ยังเป็นการสร้าง “ภาพจำ” และ “แบบอย่าง” ของพฤติกรรมการสูบโดยไม่รู้ตัว เปิดโอกาสให้เด็กเลียนแบบ และเพิ่มความเสี่ยงในการก้าวเข้าสู่การใช้สารเสพติดในอนาคต

“การสูบบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้าในบ้าน ไม่ใช่แค่ปัญหาสุขภาพ แต่คือ ‘ความรุนแรงในครอบครัว’ เพราะสมาชิกในบ้าน มีโอกาสได้รับผลกระทบจากควันบุหรี่มือสอง ซึ่งส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ การพัฒนาสมอง และสุขภาพในระยะยาว”

ด้วยเหตุนี้ สมาพันธ์เครือข่าย ฯ จึงผลักดันแนวคิด “No E-cig Home: บ้านปลอดภัย ครอบครัวปลอดบุหรี่ไฟฟ้า” ให้เป็นกลไกหลักในการสร้างสภาพแวดล้อมปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในระดับครอบครัว โดยเน้นการมีส่วนร่วมของพ่อแม่ ผู้ปกครอง และทุกคนในบ้าน เพื่อเป็นเกราะป้องกันด่านแรกในการดูแลสุขภาพกายและใจของคนไทย

แนวคิดนี้ไม่เพียงเน้นการสร้าง “ครอบครัวไร้บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า” แต่ยังรวมถึงการพูดคุยให้ความรู้กับลูกหลาน การสร้างบรรยากาศแห่งความเข้าใจและความปลอดภัยทางจิตใจ และการเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้ใหญ่ในบ้าน  เพราะ “บ้านที่ปลอดภัย ไม่ใช่เพียงบ้านที่ไร้ควันบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า แต่เต็มไปด้วยความรัก ความเข้าใจ และความอบอุ่นของทุกคนในครอบครัว”ศ.นพ.รณชัย กล่าว

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles