นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผยว่า อยากให้รัฐบาลชุดใหม่นำเงินงบประมาณในโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจส่วนอื่น เช่น การนำโครงการคนละครึ่งกลับมาใช้ และจัดสรรงบไปใช้สร้างงานสร้างอาชีพ ซึ่งจะยั่งยืนมากกว่า พร้อมเสนอ 6 ประเด็นสำคัญที่ภาคเอสเอ็มอี อยากให้รัฐบาลใหม่เร่งดำเนินการโดยเน้นไปที่การกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ลดต้นทุนเสริมสภาพคล่องเอสเอ็ม อี และ ปกป้องผู้ประกอบการจากทุนต่างชาติ ขณะนี้ทางสมาพันธ์ได้รวบรวม ข้อเสนอทั้งหมด เพื่อยื่นต่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ หลังจากเข้ารับตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว
ด้านเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวยอมรับว่า รู้สึกคลายความกังวลใจมากขึ้นหลังจากมีสัญญาณการกำหนดวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ทันที ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ โดยมองว่ายิ่งชัดเจนเร็วเท่าไร ยิ่งดีต่อความเชื่อมั่นภาคเอกชน เพราะจะทำให้ระยะสูญญากาศทางเศรษฐกิจน้อยลง
ส่วนรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ออกมายังคงเป็นบุคคลจากแกนนำรัฐบาลชุดเดิม ทำให้คาดการณ์ได้ว่านโยบายเศรษฐกิจหลักๆ จะยังคงได้รับการสานต่อ แต่ก็ต้องจับตาผลโหวตนายก รัฐมนตรี และรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่อีกครั้ง
ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่อยากเห็นรัฐบาลชุดใหม่ เร่งดำเนินการ ก็คือ ความชัดเจนในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่าจะได้ไปต่อหรือไม่ การออกมาตรการเติมเงินกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วน รวมถึงมาตรการดูแลการทุ่มตลาดของทุนต่างชาติที่ขยายวงกว้างมากขึ้น ส่วนมาตรการระยะกลางและระยะยาว ก็ยังเป็นเรื่องเดิมคือการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ การดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติที่ต้องทำต่อเนื่อง