ฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือในการลงทุนชื่อดังระดับโลกตากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ได้ปรับลดอันดับมุมมองภาวะเศรษฐกิจของประเทศจีนเป็นลบ หรือ Negative จากเดิมที่อยู่ในระดับเสถียรภาพ หรือ Stable สาเหตุจากรัฐบาลจีนมีแนวโน้มสร้างหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นจากมาตรการทางเศรษฐกิจที่ต้องการทำให้เศรษฐกิจจีนหลุดพ้นจากภาวะชะลอตัวในขณะนี้
แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจจีนเผชิญกับความไม่แน่นอนเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดแรงกดดันต่อสถานะการคลังของรัฐบาล ขณะที่รัฐบาลพยายามสนับสนุนไม่ให้เศรษฐกิจจีนต้องพึ่งพาการเติบโตจากอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์มากเกินไป ดังนั้น การใช้นโยบายการคลังของรัฐบาลจีนที่มากขึ้นเรื่อย ๆ อาจทำให้ภาวะหนี้สาธารณะจีนมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ หรือบีไอเอส (BIS) เปิดเผยว่า สัดส่วนหนี้สาธารณะของจีนใกล้แตะระดับ 80% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี โดยเมื่อช่วงกลางปี 2566 เพิ่มขึ้นราวหนึ่งเท่าตัวจากช่วงกลางปี 2553 แม้จะถือว่าสูงในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ แต่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าประเทศพัฒนาแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ขณะที่ เกณฑ์ชี้วัดหนี้ของรัฐบาลจีนเองนั้นระบุว่า หนี้สาธารณะอยู่ที่ 56% ของจีดีพีเมื่อสิ้นปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้นมากนับตั้งแต่การระบาดของโรคโควิด-19