นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เผยสถานการณ์การค้าสินค้าเกษตรของไทยในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค.-ส.ค.) มีมูลค่าการค้าสินค้าเกษตร (พิกัด 01-24 รวมยางพารา พิกัด 4001) รวมทั้งสิ้น 1,661,483 ล้านบาท หดตัว 5.17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็น มูลค่าการส่งออก 1,183,482 ล้านบาท หดตัว 6.01% และมูลค่าการนำเข้า 478,001 ล้านบาท หดตัว 3.01% แม้มูลค่าการค้าจะหดตัว แต่ไทยยังคงเกินดุลการค้าสินค้าเกษตรถึง 705,481 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการแข่งขันของสินค้าเกษตรไทยในตลาดโลก
เมื่อพิจารณาสินค้าเกษตรที่มูลค่าส่งออกสูงสุด 5 อันดับแรก พบว่า ทุเรียนสด ยังคงเป็นแชมป์อันดับหนึ่งด้วยมูลค่าสูงถึง 118,702 ล้านบาท แม้จะหดตัวลงเล็กน้อยที่ 1.40% สะท้อนถึงความต้องการที่แข็งแกร่งในตลาดจีนที่เป็นตลาดหลัก อันดับ 2 ข้าว มูลค่า 86,116 ล้านบาท ซึ่งเผชิญกับอัตราการหดตัวสูงถึง 36.94% , อันดับ 3 ยางธรรมชาติ มูลค่า 68,951 ล้านบาท หดตัว 10.65% ,อันดับ 4 ไก่แปรรูป มูลค่า 68,353 ล้านบาท หดตัว 1.44% ฃ และอันดับ 5 อาหารสุนัขหรือแมว มูลค่า 63,550 ล้านบาท ซึ่งเป็นสินค้าที่ขยายตัวได้ 0.14% สวนทางกับภาพรวม
ส่วนสินค้านำเข้า 5 อันดับแรก ส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการเลี้ยงสัตว์และแปรรูปเพื่อส่งออก ได้แก่ ถั่วเหลือง มูลค่า 42,919 ล้านบาท หดตัว 8.68% กากน้ำมัน และกากแข็งอื่นๆ ที่ได้จากการสกัดน้ำมันถั่วเหลือง มูลค่า 26,571 ล้านบาท หดตัว 22.69% อาหารปรุงแต่งอื่น ๆ มูลค่า 22,053 ล้านบาท หดตัว 2.73% ข้าวสาลีและเมสลิน มูลค่า 21,538 ล้านบาท หดตัว 7.63% และมันสำปะหลัง มูลค่า 21,021.69 ล้านบาท ขยายตัว 8.07% ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการแปรรูปเป็นอาหารสุนัขหรือแมวส่งออกด้วย
สินค้าเกษตรไทย โดยเฉพาะทุเรียนสด ยังมีความต้องการที่แข็งแกร่งในตลาดจีน และสินค้าแปรรูปมูลค่าเพิ่มสูงอย่าง อาหารสุนัขหรือแมว และ ไก่แปรรูป ยังคงรักษาความแข็งแกร่งในตลาดสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ซึ่งสะท้อนถึงการยอมรับในคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าไทย นอกจากนี้ความได้เปรียบที่สำคัญคือความหลากหลายของสินค้าและตลาดส่งออก และความสำเร็จในการเจรจาลดภาษีกับสหรัฐฯ เหลือ 19% มีผลใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.68 จะช่วยรักษาขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดของสหรัฐฯ ได้
อย่างไรก็ตาม สินค้าเกษตรไทยยังคงเผชิญกับความผันผวนและความท้าทายหลายด้าน โดยเฉพาะปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น สภาพอากาศที่แปรปรวน ต้นทุนการผลิตที่สูง การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลก สินค้าส่งออกสำคัญบางรายการเผชิญแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะข้าว ที่ต้องเผชิญการแข่งขันรุนแรงจากอินเดียและเวียดนาม รวมถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้การส่งออกลดลงค่อนข้างมาก ขณะที่ยางธรรมชาติก็เผชิญแรงกดดันจากราคาตลาดโลกที่ผันผวนและอุปสงค์จากตลาดต่างประเทศชะลอตัว
ส่วนแนวโน้มการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยในช่วงที่เหลือของปี 2568 มีลักษณะผสมผสาน โดยสินค้าหลักบางรายการที่ชะลอตัว เช่น ข้าว มีแนวโน้มลดลงอย่างชัดเจนจากปัจจัยการแข่งขันด้านราคา ส่วน ยางธรรมชาติ ยังเผชิญแรงกดดันจากเศรษฐกิจจีนและอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่ใช้วัตถุดิบลดลง ในขณะที่สินค้าที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น เช่น อาหารสุนัขหรือแมวและ อาหารปรุงแต่งอื่น ๆ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าเกษตรไทย รวมถึงตลาดใหม่ ๆ ที่เปิดรับสินค้าไทยเพิ่มขึ้น การส่งออกโดยรวมแล้วไทยยังมีโอกาสในการขยายการส่งออกผ่านการสร้างมูลค่าเพิ่ม การรักษามาตรฐานคุณภาพ และการใช้ประโยชน์จากข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ให้เกิดประโยชน์สูงสุด