นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยถึงแนวทางการที่เจ้าหนี้กับลูกหนี้เจรจาตกลงกันลดมูลหนี้ที่ติดค้างกันไว้ เพื่อให้ลูกหนี้สามารถชำระหนี้ที่ค้างไว้ได้ โดยไม่ต้องเป็นหนี้สูญ หรือ แฮร์คัทหนี้ในส่วนของหนี้บัตรเครดิตสำหรับลูกหนี้ที่มีหนี้ 5,000 – 10,000 บาท ว่าในเรื่องนี้ต้องรอความชัดเจนจากกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งเบื้องต้นรัฐบาลได้มีการหารือกันแล้วกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยในส่วนนี้จะเป็นลูกหนี้ที่เป็นหนี้บัตรเครดิตที่เป็นหนี้เสีย (NPL)ไปแล้ว และมีชื่อติดอยู่ในบัญชีเครดิตบูโร โดยการช่วยเหลือนั้นจะให้ลูกหนี้ส่วนนี้กลับมาชำระหนี้บางส่วนและจะปลดชื่อออกจากเครดิตบูโรที่เป็นบัญชีหนี้เสียให้เพื่อให้สามารถกลับมาทำธุรกรรมทางการเงินได้ปกติ
โดยเมื่อดูจากจำนวนลูกหนี้อาจจะมีจำนวนมากประมาณ 1 ล้านบัญชี แต่ว่ามูลหนี้รวมกันไม่มากอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งหากสามารถแก้ปัญหาส่วนนี้ได้ก็จะช่วยเหลือลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสียที่มีปัญหาในส่วนนี้ได้
ส่วนข้อกังวลเกี่ยวกับปัญหาเรื่องอันตรายทางศีลธรรม (Moral Hazard) หรือไม่ นายดนุชา กล่าวว่าลูกหนี้กลุ่มนี้เป็นกลุ่มเฉพาะที่สถาบันการเงินนั้นมีรายชื่อลูกหนี้อยู่แล้วไม่ได้ให้เป็นการทั่วไป ซึ่งไม่ใช่ส่วนที่เป็นบัญชีหนี้บัตรเครดิตปกติทั่วไปด้วยส่วนนี้จะแยกบัญชีออกมาอยู่แล้ว อย่างไรก็ดีจะต้องมีการนำเสนอ ครม.เห็นชอบในวันที่ 11 ธ.ค.นั้นคาดว่าเป็นเรื่องการรายงานให้ ครม.รับทราบส่วนการดำเนินงานอาจจะต้องใช้งบประมาณบางส่วน และอาจจะมีลูกหนี้บางส่วนที่เป็นของสถาบันการเงินของรัฐที่อาจจะต้องได้รับความช่วยเหลือด้วยซึ่งต้องรอรายละเอียดจากกระทรวงการคลัง