นางศิริเพ็ญ เกียรติเฟื่องฟู รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ( สศอ. ) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เมษายน 2567 อยู่ที่ระดับ 90.34 ขยายตัวร้อยละ 3.43 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกหลังหดตัวต่อเนื่อง 18 เดือน อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ ร้อยละ 55.26 ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการส่งออกกลับมาขยายตัว โดยการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำ อาวุธ รถถัง และอากาศยานรบ) ขยายตัวร้อยละ 14.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมถึงภาคการท่องเที่ยวขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว และฐานต่ำในปีก่อน อย่างไรก็ตาม ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม 4 เดือนแรกของปี 2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 98.28 หดตัวเฉลี่ยร้อยละ 2.06 และอัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 59.13 เนื่องจากการผลิตยานยนต์ลดลงเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน จากการหดตัวของการบริโภคภายในประเทศ และปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ทำให้ผู้บริโภคยังคงระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอย รวมถึงต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น เป็นปัจจัยที่กดดันให้ MPI หดตัว ทั้งนี้ สศอ. ปรับประมาณการดัชนี MPI ปี 2567 อยู่ที่ขยายตัวร้อยละ 0.0 – 1.0 ด้านการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP) ภาคอุตสาหกรรม ปี 2567 คาดขยายตัวร้อยละ 0.5 -1.5
สำหรับระบบการเตือนภัยด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมภาพรวมของไทยเดือนพฤษภาคม 2567 ส่งสัญญาณฟื้นตัวระยะสั้น โดยปัจจัยภายในประเทศฟื้นตัวตามความเชื่อมั่นทางธุรกิจ การนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบที่ปรับเพิ่มขึ้น ในขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ ส่งสัญญาณฟื้นตัวระยะสั้น จากการฟื้นตัวของสหรัฐอเมริกา และผลผลิตในสหภาพยุโรป รวมทั้งภาคการผลิตของญี่ปุ่นที่มีแนวโน้มฟื้นตัวจากการจ้างงาน ที่เพิ่มขึ้น
สศอ. ปรับประมาณการดัชนี MPI ปี 2567 อยู่ที่ขยายตัวร้อยละ 0.0 – 1.0 จากประมาณการเดิมขยายตัวร้อยละ 2.0 – 3.0 ด้านการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP) ภาคอุตสาหกรรม ปี 2567 คาดขยายตัว ร้อยละ 0.5 -1.5 จากประมาณการครั้งก่อนคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.0 – 3.0 ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับหน่วยงานทางเศรษฐกิจอื่น ๆ โดยมีสาเหตุหลักจากปัญหาหนี้สินครัวเรือนในประเทศและอัตราดอกเบี้ย มีระดับสูง ต้นทุนพลังงานและค่าจ้างปรับตัวสูงขึ้น สภาพภูมิอากาศแปรปรวนกระทบอุตสาหกรรมที่พึ่งพาผลผลิตทางการเกษตร ปัญหาสินค้านำเข้าราคาถูกล้นตลาดประเทศไทย รวมถึงปัจจัยต่างประเทศ อาทิเศรษฐกิจคู่ค้าหลักบางประเทศอาจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด การเลือกตั้งผู้นำในหลายประเทศ ปัญหาเชิง ภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ–จีน นางศิริเพ็ญ กล่าว
ส่วนอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลบวกต่อดัชนีผลผลิตเดือนเมษายน 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนได้แก่เครื่องจักรอื่นๆที่ใช้งานทั่วไปผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียมอาหารสัตว์สำเร็จรูป
สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลลบต่อดัชนีผลผลิตเดือนเมษายน 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนได้แก่ชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์คอนกรีตปูนซีเมนต์และปูนปลาสเตอร์