ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่าสหรัฐอเมริกาเตรียมเก็บ ภาษีนำเข้า รถยนต์ไฟฟ้า (EV) จากจีนในอัตรา102.5% จากปัจจุบันที่เก็บอยู่ในอัตรา 27.5% โดยเป็นความพยายามของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ในการปกป้องอุตสาหกรรมรถยนต์ภายในประเทศสหรัฐจากการแข่งขันกับรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกจากจีน ผ่านการทบทวนภาษีศุลกากรมาตรา 301 โดยมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมต่าง ๆ นอกเหนือจากอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ปรับเพิ่มเป็น 102.5% ด้วย เช่น แบตเตอรี่ โซลาร์เซลล์ เหล็ก อลูมิเนียม เป็น 25% จากปัจจุบันที่อยู่ระหว่าง 0-7.5% ขณะที่สหภาพยุโรป (EU) กำลังสอบสวนการอุดหนุนราคารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนที่ส่งเข้าไปทุ่มตลาดยุโรป และจะประกาศอัตราภาษีใหม่เช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะอยู่ราว ๆ 30%
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ประเด็นการปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศจากการทุ่มตลาดของจีน ของสหรัฐฯ และอียู อาจส่งผลต่อแนวโน้มการลงทุนด้านพลังงานสะอาดในประเทศต่างๆ รวมถึงของสหรัฐฯ และอียูเอง เนื่องจากต้องใช้เงินงบประมาณในการให้สิทธิประโยชน์กับผู้ประกอบการภายในประเทศ รวมถึงอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าที่มีฐานการผลิตอยู่ในประเทศจีน เช่น BMW Tesla ที่จะโดนการผลกระทบของการเพิ่มภาษี
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญทั้งจากสหรัฐฯ และจีน ยังคงมองว่า การปรับเพิ่มอัตราภาษีอาจจะไม่ได้เพิ่มความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนมากนัก และส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อเพียง 0.1% อีกทั้ง ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบของราคาสินค้าในระยะยาวหลังจากบริษัทผู้ผลิตมีการปรับตัวภายหลังจากมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้