บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) (SET:S) บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนระดับสากลอย่างยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ “Entrusted and Value Enricher, มุ่งสร้างคุณค่า และการเติบโตอย่างยั่งยืน” โดยยึดมั่นในการพัฒนาที่อยู่อาศัยภายใต้จุดยืน “Mastering the Luxury” ใส่ใจทุกรายละเอียด เพื่อคุณค่าแห่งการอยู่อาศัย สานต่อความสำเร็จจาก แบรนด์ สริน (S’RIN) ที่มาพร้อมแนวคิดหลัก “Infinite Living” ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากโครงการ สริน ราชพฤกษ์-สาย 1 สู่โครงการ “สริน พรานนก-กาญจนา” โครงการบ้านเดี่ยวระดับ Premium Luxury บนถนนพระเทพตัดใหม่ สะท้อนผ่านสถาปัตยกรรมสไตล์ Mediterranean Revival และได้ผสมผสานกับรสนิยมแบบฉบับสิงห์ เอสเตท ที่ออกแบบบ้านด้วยความประณีต ใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน ตามคอนเซปท์ “Craft to Last” เติมเต็มคำว่า “บ้าน” ให้ลึกซึ้งกว่า ที่เป็น พร้อมโอบรับการเติบโตของสมาชิกทุกคนในครอบครัวอย่างไม่สิ้นสุด บนทำเลศักยภาพ กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก
นายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร การพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ “S” กล่าวว่า “จากจุดเริ่มต้นในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ในตลาดกลุ่มลักชูรี ตั้งแต่แบรนด์บ้านเดี่ยวระดับอัลตราลักชูรี Santiburi the Residences ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง จนถึงโครงการระดับพรีเมียมลักชูรี อย่าง สริน ราชพฤกษ์-สาย 1 ที่เราได้รับความไว้วางใจ ด้วยยอดการจองเกินกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ แม้จะเป็นครั้งแรกที่สิงห์ เอสเตทเข้ามาพัฒนาโครงการในกรุงเทพโซนตะวันตกก็ตาม การสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยอย่างใส่ใจในทุกรายละเอียด ส่งผลให้แบรนด์ สริน มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมื่อผสานกับความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อความต้องการของการอยู่อาศัยในที่อยู่อาศัยระดับลักชูรี เราจึงสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของลูกบ้านได้อย่างลงตัว โดยสิงห์ เอสเตท มีแผนในการต่อยอดการพัฒนาโครงการในเซกเมนต์ ลักชูรีอย่างต่อเนื่อง บนจุดยืน “Mastering the Luxury” จึงเป็นที่มาของการเปิดโครงการ “สริน พรานนก-กาญจนาภิเษก” ที่ไม่เพียงโดดเด่นในด้านของดีไซน์เท่านั้น แต่แนวคิดเบื้องหลังของการพัฒนาโครงการยังมีความน่าสนใจมากมาย ทั้งในแง่ของสุนทรียภาพของการอยู่อาศัยที่สร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมพลังขับเคลื่อนชีวิต ตลอดจนศิลปะการเชื่อมโยงทุกความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว”
จากแกนความคิดหลักของแบรนด์ สริน อันได้แก่ “Infinite Living” บ้านเป็นพื้นที่รองรับทุกความต้องการในชีวิต เพื่อการเติบโตอย่างไม่สิ้นสุด ได้ส่งต่อแนวความคิดการพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์นี้ สู่โครงการ สรินพรานนก-กาญจนา ซึ่งได้นิยามใหม่ให้บ้านไม่เพียงแต่เป็นที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นพื้นที่แห่งการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พัฒนาพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านให้รองรับกิจกรรมที่ทำร่วมกันของสมาชิกในบ้าน มาประยุกต์รวมกับแนวคิดในการออกแบบสถาปัตยกรรม “Mediterranean Revival” โดยนำเอากลิ่นอายของสถาปัตยกรรมฯมาใช้ในโครงการ เป็นการสร้างบรรยากาศที่สวยงาม อบอุ่น และ ผ่อนคลาย ทำให้ สริน พรานนก-กาญจนา เป็น “บ้าน” ที่ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิกหลายเจเนอเรชัน ให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่ส่วนตัวสำหรับทุกคนในครอบครัว ตลอดจนความพิถีพิถันในการเลือกใช้วัสดุตามแนวคิด “Craft to Last” อันเป็นเอกลักษณ์ของสไตล์การออกแบบที่สง่างาม ตามแบบฉบับของสิงห์ เอสเตท
การเลือกทำเลโครงการ สริน พรานนก-กาญจนา ในโซนกรุงเทพฯ ตะวันตก สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ของสิงห์ เอสเตท ในการขยายพอร์ตโฟลิโอของบริษัทฯ เนื่องจากโซนกรุงเทพฯ ตะวันตกกำลังเป็นที่จับตามองในวงการอสังหาริมทรัพย์ ด้วยศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการวิเคราะห์ตลาดอย่างละเอียดพบว่า กลุ่มลูกค้าเป้าหมายในพื้นที่นี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจที่มีกำลังซื้อสูง มีครอบครัวขยายหรือครอบครัวใหญ่ ต้องการที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ขนาดของบ้าน และพื้นที่ใช้สอยอย่างสมบูรณ์ สามารถรองรับความต้องการของสมาชิกในครอบครัวที่มีหลายหลายเจเนอเรชัน สริน พรานนก-กาญจนาถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการนี้อย่างตรงจุด ผสมผสานระหว่างความสง่างามและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน บนที่ดินขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับธรรมชาติและพื้นที่สีเขียว
สริน พรานนก – กาญจนา ออกแบบ และก่อสร้างพื้นที่ให้สามารถปรับเปลี่ยน ดัดแปลงได้ตามการใช้งานของทุกคนในครอบครัวทั้งในปัจจุบัน และ อนาคตมีพื้นสีเขียวขนาดใหญ่ภายในบริเวณบ้าน เพื่อรองรับการพักผ่อน หรือ ดัดแปลงให้ตรงกับความต้องการในการใช้พื้นที่โครงการ สริน พรานนก-กาญจนา คำนึงถึงคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ภายใต้การนำระบบ S-Air ซึ่งเป็นคอนเซปท์การจัดการคุณภาพอากาศภายในบ้าน โครงการมีการติดตั้งระบบแลกเปลี่ยนอากาศ และสร้างการไหลเวียนของอากาศภายในทุกหลังเพื่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โครงการมีการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) ขนาด 5 KW พร้อมการเตรียมจุดติดตั้ง EV Charger 1 จุด