ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า การส่งออกไทยในเดือน มิ.ย.67 พลิกหดตัวที่ -0.3% เทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมา ซึ่งสวนทางกับตลาดที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 2.6% เทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมา โดยปัจจัยฉุดมาจากการส่งออกทุเรียนสดไปจีนที่ลดลง -42.9% เทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมา ส่งผลให้การส่งออกไทยไปจีนในเดือน มิ.ย.67 ลดลง -12.3% เทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมา
เนื่องจากปัจจัยฐานส่งออกที่สูงในเดือน มิ.ย. 2566 ทั้งนี้ ภาพรวมการส่งออกทุเรียนทั้งปีมีแนวโน้มหดตัวจากปีก่อนหน้า เนื่องจากผลผลิตออกมาน้อยตามสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย นอกจากนี้ การส่งออกผลิตภัณฑ์ยางและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไปจีนหดตัวต่อเนื่อง
ขณะที่การส่งออกรถยนต์พลิกกลับมาขยายตัว รวมถึงส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยการส่งออกรถยนต์กลับมาขยายตัวได้ถึง 13.5% เทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมา จากการส่งออกรถยนต์นั่งและปิคอัพที่เพิ่มขึ้นในตลาดอาเซียน และตลาดรองอื่นๆ อาทิ เม็กซิโก และซาอุดิอาระเบีย ขณะที่การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ ได้แก่ ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ HDDs เครื่องพิมพ์ และโทรศัพท์และส่วนประกอบ ซึ่งหนุนให้การส่งออกไปสหรัฐฯ ขยายตัวเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน
ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แนวโน้มการส่งออกไทยมีโอกาสขยายตัวได้ต่ำลงกว่าครึ่งปีแรก ที่ขยายตัว 2.0% เทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมา จากปัจจัยเสี่ยงเชิงลบที่เพิ่มขึ้น ดังนี้
1)เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มเติบโตชะลอลงจากอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแรง อาทิ สหรัฐฯ และจีน ซึ่งการส่งออกไทยไปยังตลาดดังกล่าวมีสัดส่วนรวมกันราว 30% ของการส่งออกไทยทั้งหมด นอกจากนี้ สหรัฐฯ มีปริมาณสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หรือเพิ่มขึ้น 1.6% ตั้งแต่ต้นปี จึงอาจส่งผลให้เกิดการชะลอการนำเข้าสินค้าในระยะข้างหน้า
2)ไทยมีได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของอุปสงค์อิเล็กทรอนิกส์ในตลาดโลกจำกัด เนื่องจากปัญหาเชิงโครงสร้าง โดยสินค้าที่ไทยส่งออกมีมูลค่าและความซับซ้อนค่อนข้างต่ำ สะท้อนจากการส่งออกกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของไทยขยายตัวได้ต่ำกว่าประเทศผู้ส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง เช่น เกาหลีใต้ เวียดนาม เป็นต้น โดยตัวเลขการส่งออกเกาหลีใต้ 20 วันแรกของเดือนก.ค.2567 ขยายตัวถึง 18.8% เทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมา
ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงประมาณการภาพรวมการส่งออกไทยในปี 2567 ขยายตัวที่ 1.5% โดยยังคงต้องติดตามประเด็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ยังมีความไม่แน่นอน