ซันไก ชิมบุน ซึ่งเป็นสำนักข่าวและสื่อในประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า นายกรัฐมนตรีหญิง ซานาเอะ ทากาอิชิ กล่าวในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร รัฐสภาญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ว่า การเพิ่มขึ้นของผู้หญิงญี่ปุ่นที่ขายบริการทางเพศ หรือโสเภณีหญิงญี่ปุ่นที่มุ่งเน้นไปยังนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศภายในกรุงโตเกียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในย่านแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ได้แก่ คาบูกิโช กำลังกายเป็นความน่ากังวลอย่างมากกับภาพพจน์ของประเทศญี่ปุ่น
ขณะที่เจแปน ทูเดย์ ซึ่งเป็นสื่อและสำนักข่าวชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น รายงานว่าในเดือนกรกฎาคมผ่านไป เจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่นได้จับกุมผู้หญิงชาวญี่ปุ่น 4 รายในย่านคาบูกิโชที่อยู่ติดกับแหล่งท่องเที่ยวแชะช้อปปิ้งชินจูกุ ในข้อหาชักชวนชาวต่างชาติให้ซื้อประเวณีกับพวกเธอทั้งหมด
ด้านโชชุน บิส เป็นสำนักข่าวและสื่อด้านธุรกิจในประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า ชิโออูมูระ ฟูมิกะ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกรัฐสภาญี่ปุ่นได้อ้างอิงถึงรายงานข่าวของสำนักข่าวต่างประเทศว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศท่องเที่ยวขายบริการทางเพศ หรือเซ็กซ์แห่งใหม่ ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่าภาพพจน์ของประเทศญี่ปุ่น ในสถานะประเทศ ที่ไม่มีการปกป้องศักดิ์ศรีของผู้หญิงญี่ปุ่นได้ถูกเผยแผ่ไปทั่วโลก ผู้ชายชาวต่างประเทศบางรายมีมุมมองว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศจีนมีการซื้อขายบริการทางเพศโดยไม่ได้รับการลงโทษ
สำนักข่าวด้านเศรษฐกิจและธุรกิจอีกแห่ง ชื่อว่า เอเชีย บิสสิเนส เดลี่ รายงานว่า นายกรัฐมนตรีหญิง ซานาเอะ ทากาอิชิ ยอมรับในข้อวิพากษ์วิจารย์ที่ว่ากฎหมายปกป้องการค้าประเวณี (Prostitution Prevention Law) ในปัจจุบันที่บังคับใช้อยู่นั้น กำหนดบทลงโทษเพียงแค่บุคคลใดก็ตามที่ชักชวน เชิญชวน หรืออำนวยความสะดวก ให้เกิดการซื้อขายบริการทางเพศ แต่สาระกฏหมายดังกล่าวกลับขาดความชัดเจนในเรื่องเกี่ยวกับบทลงโทษสำหรับบุคคลใดก็ตามที่ซื้อบริการทางเพศกับผู้หญิงญี่ปุ่นในประเทศญี่ปุ่น
นายกรัฐมนตรีหญิงญี่ปุ่นกล่าวต่อไปว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะมีการทบทวน แนวทางกฎหมายที่ใช้กำกับดูแลและควบคุม ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เพื่อทำให้เกิดการปกป้องศักดิ์ศรีของผู้หญิงชาวญี่ปุ่น และเน้นความจำเป็นในการป้องกันองค์กรอาชญากรรมที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณี
ทั้งนี้นับตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนกันยายน 2025 ผ่านไปญี่ปุ่นมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางสะสมเข้ามาบ้านถึง 31.65 ล้านคน เพิ่มสูงมากขึ้นถึง 17.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2024 ผ่านไป จากปัจจัยบวกที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลสำคัญทั่วโลก การผ่อนคลายนโยบายวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และการเพิ่มเส้นทางบินรวมถึงจุดเชื่อมต่อและการเปลี่ยนเครื่องบินมีจำนวนมากขึ้น