นายพิชัย ชุณหะวชิระ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประเทศไทย กล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กในช่วงเย็นวันนี้ 6 กรกฎาคม 2025 ว่า ข้อเสนอของประเทศไทยล่าสุดมีความต้องการที่จะ เพิ่มปริมาณการค้าระหว่างประเทศ กับสหรัฐอเมริกา และลดการเกินดุลการค้ากับสหรัฐอเมริกาที่มีมูลค่า 47,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.55 ล้านล้านบาท ซึ่งตั้งเป้าจะลดการเกินดุลดังกล่าวให้มากถึง 70% ภายในห้าปีจากนี้ นั่นหมายถึงจะทำให้เกิดการค้าสมดุลย์ระหว่างทั้งสองประเทศภายใน 7 ถึง 8 ปี
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประเทศไทย กล่าวว่า ในปัจจุบันมีสินค้าที่มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่จะสามารถเข้าถึงมากยิ่งขึ้นในตลาดของไทย ซึ่งสินค้ากลุ่มดังกล่าวพบว่ายังมีจำนวนน้อยภายในประเทศไทย จากการประเมินจะไม่ทำให้ได้รับผลกระทบต่อเกษตกร และผู้ผลิตของไทย ประเทศสหรัฐฯสามารถที่จะค้าขายกับประเทศไทยได้มากยิ่งขึ้น และประเทศไทยจะได้โอกาสในการแก้ไขกระบวนการ หรือขั้นตอน ที่จะนำไปสู่การตัดลดลำดับขั้นตอนต่างๆที่มีมากมาย
นายพิชัย กล่าวต่อไปว่า ข้อเสนอที่กลับมาทบทวนส่งกลับไปยังรัฐบาลสหรัฐอเมริกาคาดว่าก่อนวันที่ 9 กรกฎาคมนี้หากข้อเสนอชุดใหม่ได้รับการยอมรับจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ประเทศไทยจะสามารถลดภาษีนำเข้า หรือ ข้อจำกัดการค้าที่อยู่ไม่อยู่ในรูปแบบภาษี หรือเอ็นทีบีได้อย่างทันที สำหรับสินค้าหลักสำคัญ ในขณะที่จะทยอยลด ข้อจำกัดการค้า สำหรับกลุ่มสินค้าที่มีลำดับความสำคัญลดหลั่นลงมาซึ่งจะหมายถึงกลุ่มสินค้าขนาดเล็ก
นายพิชัยกล่าวต่อไปว่า รัฐบาลตั้งความหวังที่จะเห็นกรณีที่ดีที่สุดคือถูกจัดเก็บอัตราภาษีที่ 10% หรือถ้าหากจะต้องถูกเก็บอัตราภาษีระหว่าง 10 ถึง 20% ยังคงเป็นอัตราภาษีที่ยอมได้ แต่สิ่งที่จะเลวร้ายที่สุดสำหรับประเทศไทย คือประเทศไทยได้ข้อตกลงภาษีและการค้าที่เลวร้ายที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้รัฐบาลประเทศไทยได้มีการปรับแผนเชิงรุกอย่างมาก สำหรับแผนการนำเข้าสินค้าพลังงาน โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติแอลเอ็นจีจากสหรัฐอเมริกา รวมถึงการนำเข้าเครื่องบินยี่ห้อโบอิ้งจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะเป็นการลดความไม่สมดุลย์ด้านการค้าลงอย่างมาก
