“สุริยะ” เบรกทางด่วน N1 “เกษตร-งามวงศ์วาน” มูลค่า 49,220 ล้าน ค่าก่อสร้างอุโมงค์แพง ลงทุนไม่คุ้มค่า ชี้ไม่ได้ล้ม แต่ถ้าอนาคตมีวิธีที่เหมาะสมรื้อทำใหม่ได้

“สุริยะ” เบรก ทางด่วน N1 “เกษตร-งามวงศ์วาน” มูลค่า 49,220 ล้าน ค่าก่อสร้างอุโมงค์แพง ลงทุนไม่คุ้มค่า ชี้ไม่ได้ล้ม แต่ถ้าอนาคตมีวิธีที่เหมาะสมรื้อทำใหม่ได้

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานเบื้องต้นจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ว่าจะชะลอโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ส่วนทดแทน ตอน N1 (ทางพิเศษศรีรัช-ถนนงามวงศ์วาน – ถนนประเสริฐมนูกิจ) ที่ กทพ. สรุปผลศึกษาแล้ว โดยเห็นว่าโครงการมีผลตอบแทนทางการเงิน (FIRR) ติดลบ กรณีก่อสร้างเป็นระบบทางด่วนใต้ดิน

ทั้งนี้ กทพ.เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจการลงทุนโครงการต่างๆ จะต้องมีความคุ้มทุนทางการเงิน ไม่ใช่คุ้มทุนทางเศรษฐกิจ ซึ่งหากจะให้ดำเนินการเพื่อให้เกิดความคุ้มทุนทางเศรษฐกิจ รัฐต้องหาเงินมาสนับสนุน ซึ่งจากการพัฒนารูปแบบการก่อสร้างทางด่วนสาย N1 เป็นอุโมงค์รวมถึงการบำรุงรักษาในอนาคตพบว่าไม่คุ้มทุนอย่างมาก ดังนั้นจำเป็นต้องชะลอโครงการนี้ออกไปก่อน

ขณะที่รูปแบบทางด่วนยกระดับตามการศึกษานั้น ถือว่ามีความคุ้มค่าทางด้านการลงทุนและเศรษฐกิจมากกว่าซึ่งหากในอนาคตสามารถก่อสร้างในรูปแบบทางด่วนยกระดับได้ก็อาจจะมีการพิจารณานำเส้นทางนี้กลับมาทบทวนเพื่อดำเนินโครงการใหม่อีกครั้งได้

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2567 คณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ. ได้มีมติรับทราบการชะลอโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ส่วนทดแทน ตอน N1 (ทางพิเศษศรีรัช-ถนนงามวงศ์วาน-ถนนประเสริฐมนูกิจ) ออกไปก่อนตามที่ กทพ. ได้รายงานผลการศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม ของโครงการฯ ซึ่งแม้โครงการจะมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) สูงถึง 19.20% แต่พบว่าตัวเลขผลตอบแทนทางการเงิน (FIRR) ติดลบ เนื่องจากต้องก่อสร้างเป็นอุโมงค์ เพื่ดผลกระทบตามที่ได้รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทำให้มีค่าก่อสร้างสูงมาก

สำหรับโครงการทางพิเศษศรีรัช-ถนนงามวงศ์วาน -ถนนประเสริฐมนูกิจ หรือทางด่วนทดแทน N1 มีจุดเริ่มต้นบริเวณจุดตัดระหว่างทางพิเศษศรีรัช-ถนนงามวงศ์วาน และสิ้นสุดที่ถนนประเสริฐมนูกิจ โดยเชื่อมต่อกับโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 บริเวณแยกสุคนธสวัสดิ์ ระยะทางรวม 10.55 กิโลเมตร (กม.) มูลค่า 49,220 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้าง 44,532 ล้านบาทค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 3,619 ล้านบาทค่าควบคุมงานก่อสร้าง 1,069 ล้านบาท

โดยล่าสุดมีการรับฟังความคิดเห็นประชาชนส่วนใหญ่คัดค้านขอให้ยกเลิกโครงการ เนื่องจากใช้เงินลงทุนสูงไม่คุ้มค่า และไม่แก้ปัญหาจราจรได้จริง เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มีความไม่ปลอดภัยสูง

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles