สมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งชาติ ประเทศจีน หรือ CAAM เปิดเผยว่า ยอดส่งออกรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีในเดือนมิถุนายนมีจำนวน 86,000 คัน ลดลง -13.2% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านั้น ส่งผลเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน หรือนับตั้งแต่มีนาคมเป็นต้นมาที่ยอดส่งออกรถอีวีของจีนลดลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยอดส่งออกยานยนต์ในภาพรวมในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นเบาบางเพียง 0.7% เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคมผ่านมา ขณะที่เมื่เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมานั้น จีนส่งออกยานยนต์เดือนมิถุนายนในภาพรวมสูงถึง 26.9%
สาเหตุที่ยอดส่งออกยานยนต์ในภาพรวมยังเพิ่มสูงนั้นมาจากตลาดรถยนต์ในรัสเซียและเม็กซิโกมีการเติบโตขึ้นจากการนำเข้ารถยนต์จากจีน ในขณะที่ประเทศยักษ์ใหญ่ในโลกตะวันตก เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา และกลุ่มสหภาพยุโรป หรืออียู ใช้มาตรการกีดกันทางภาษีกับรถอีวีที่นำเข้าจากประเทศจีน โดยเฉพาะเมื่อเดือนมีนาคมผ่านมา กลุ่มอียูประกาศใช้มาตรการขั้นตอนการลงทะเบียนศุลกากรด้วยอัตราภาษีกับรถอีวีที่นำเข้าจากจีน เพื่อใช้ตอบโต้อย่างเหมาะสมหลังมีการตรวจสอบเชิงลึกว่ารัฐบาลจีนอุดหนุนต้นทุนและราคารถอีวี
ล่าสุด เมื่อต้นเดือนนี้ อียูประกาศมาตรการเก็บภาษีรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีที่ผลิตโดยบริษัทสัญชาติจีน แบบมีเงื่อนไข โดยมีอัตราภาษีระหว่าง 17.4% ถึง 37.6% ให้มีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ 4 กรกฎาคม 2024 สำหรับเงื่อนไขดังกล่าว คือ จะมีระยะเวลาในการเจรจาระหว่างกลุ่มอียูกับรัฐบาลจีนเป็นเวลา 4 เดือนจากนี้ไปจนกระทั่งถึงตุลาคมนี้ ซึ่งจะเป็นวันที่ประเทศสมาชิกทั้ง 27 ประเทศในอียูจะต้องลงมติให้สัตยาบันต่อกฎหมายภาษีดังกล่าวอย่างพร้อมเพรียงกัน ถ้าหากการเจรจาระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายไม่มีข้อสรุปที่ตกลงกันได้ กฎหมายภาษีดังกล่าวจะมีผลเหมือนเดิมนับตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคมที่ประกาศไว้ผ่านมา และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2024 ไปเป็นเวลา 5 ปีต่อเนื่อง
สำหรับตลาดยานยนต์ในประเทศจีนนั้น ถึงแม้ว่าในภาพรวมของ 6 เดือนแรกในปีนี้ จะมียอดขายรถอีวีจำนวน 4.33 ล้านคัน ซึ่งเติบโตมากถึง 35.1% แต่เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา พบว่ามีสัดส่วนของยอดขายรถอีวีในจีนลดลง -9% จากที่เคยทำได้ 44.1% ท่ามกลางรัฐบาลจีนออกมาตรการอุดหนุนตลาดรถอีวีให้ผู้บริโภคชาวจีนเปลี่ยนผ่านการใช้รถยนต์เครื่องสันดาปไปใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า
ทั้งนี้ ฟิทช์ เรตติ้ง (Fitch Rating) ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือในการลงทุนชั้นนำระดับโลก เปิดเผยว่า มาตรการที่เสนอเก็บภาษีรถอีวีจีนเพิ่มเติมจากอัตราภาษีเดิมที่ใช้มาก่อนหน้านั้น จะลดทอนแนวโน้มการเติบโตของผู้ผลิตรถอีวีจากจีนในตลาดทั้ง 27 ประเทศสมาชิกกลุ่มอียู ด้วยแรงกดดันจากราคาขายที่่แพงขึ้นอย่างมาก และการลดความสามารถในการแข่งขันในตลาดรถอีวีของจีนในแต่ละประเทศสมาชิก
