ทีทีบี อนาลิติกส์ (ttb analytics) ซึ่งอยู่ในเครือธนาคารทีทีบี (ttb) เปิดเผยว่า การจัดการหนี้จึงกลายเป็นเรื่องยากสำหรับครัวเรือนและนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ในที่สุด สอดคล้องกับตัวเลขคุณภาพเครดิตสินเชื่อรายย่อยของธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 โดยยอดคงค้างสินเชื่อที่ค้างชำระหนี้ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป หรือ Stage 3 สูงถึงเกือบ 1.8 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 3.35% ของสินเชื่อรายย่อยทั้งหมด
ขณะที่ยอดคงค้างสินเชื่อที่เริ่มผิดนัดชำระหนี้ 1-3 เดือนยังค่อนข้างสูงถึงกว่า 4 แสนล้านบาท หรือ 7.62% ของสินเชื่อรายย่อยทั้งหมด ด้านการขยายตัวของสินเชื่อรายย่อยก็เป็นไปอย่างระมัดระวัง โดยยังคงหดตัวถึง 2.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการหดตัวติดต่อกัน 4 ไตรมาส
สาเหตุหนี้ครัวเรือนไทยอยู่ระดับสูงมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเป็นผลจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เติบโตได้ค่อนข้างช้า สวนทางกับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว อีกทั้งพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลมีส่วนสำคัญในการเร่งการก่อหนี้ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ทำให้หลายคนตกอยู่ในวงจรหนี้โดยไม่ทันตั้งตัว และเมื่อขาดความรู้ทางการเงินที่เพียงพอ
ทั้งนี้ การเริ่มต้นก่อหนี้อย่างไม่รอบคอบ การถือสินเชื่อหลายบัญชี และการพึ่งพาเงินกู้จากหลากหลายแหล่งที่มา ล้วนเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้ของลูกหนี้ในอนาคต ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางทางการเงินของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่เริ่มต้นก่อหนี้จากสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งมีแนวโน้มจะวนเวียนอยู่ในวงจรหนี้ และมีโอกาสผิดนัดชำระหนี้ในผลิตภัณฑ์สินเชื่ออื่น ๆ ตามมาอย่างไม่รู้จบ