หมดแรงขึ้น! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดร่วงกว่า 130 จุด

เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 31,899 จุด -137 จุด หรือ -0.43% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,961 จุด -37 จุด หรือ -0.93% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 11,834 จุด -225 จุด หรือ -1.87% ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปรับเพิ่มขึ้นเกือบ +2%, +2.6% และ +3% ตามลำดับ

สาเหตุจากผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงแรงครั้งใหม่ โดยเฉพาะราคาหุ้นของสื่อโซเชียลชื่อดัง เช่น สแน็บ (Snap) และทวิตเตอร์ ที่มีผลประกอบการตกต่ำกว่าที่คาดหมายไว้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับอ่อนค่าลง ท่ามกลางธนาคารกลางยูโรปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น 0.5% เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี รวมถึงมุมมองของนักลงทุนที่มีต่อผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์คที่ยังคงประเมินว่าแม้จะออกมาตกค่ำลงแต่เป็นไปตามคาดการณ์ไว้

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 94.70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.7% ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 103.20 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.66 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.6% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากสหภาพยุโรป หรืออียู เปิดเผยว่าอาจจะอนุญาตให้รัฐวิสาหกิจพลังงานของรัสเซียสามารถขนส่งน้ำมันดิบผ่านไปยังประเทศที่ 3 ได้ภายใต้การปรับเปลี่ยนมาตรการคว่ำบาตรที่มีต่อรัสเซีย นอกจากนี้ สหรัฐอเมริการายงานปริมาณความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปลดลงในช่วงฤดูร้อน ซึ่งปกติจะมีปริมาณการใช้น้ำมันสูงสุดของปี ส่งผลให้ปริมาณสำรองน้ำมันสำเร็จรูปในสัปดาห์ที่ผ่านไปเพิ่มสูงขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ธนาคารกลางกลุ่มยูโรปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นถึง 0.5% ซึ่งมากกว่าที่คาดไว้ และยังเป็นการขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นครั้งแรกในรอบ 11 ปี สร้างความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจกลุ่มยูโรที่จะชะลอตัวมากยิ่งขึ้น

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,727.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +15.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.8% ในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำปรับขึ้น +1% และเป็นสัปดาห์แรกที่ปิดบวกได้ใน 6 สัปดาห์ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน นอกจากนี้ ราคาทองคำล่วงหน้าดำดิ่งมากถึง 380 ดอลลาร์สหรัฐนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

สาเหตุจาก ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับร่วงอ่อนค่าในคืนผ่านมา ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นลดลงต่อเนื่อง ท่ามกลางนักลงทุนประเมินโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นสูงถึง 1% ของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาอาจเป็นไปได้น้อยลง