ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2024 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,336.87 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -35.13 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -1.5% หยุดทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ ขณะที่ราคาสูงสุดระหว่างวันในคืนผ่านมาพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,419.79 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่
ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 2,374.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -15.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.1% หยุดทำสถิติราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ ครั้งใหม่
ในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำปิดเพิ่มสูงขึ้นถึง +1% และยังเป็นราคาทองคำรายสัปดาห์ที่ปิดขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ต่อเนื่อง ส่งผลทำสถิติราคาทองคำรายสัปดาห์ที่ปิดขึ้นยาวนานที่สุดในรอบ 1 ปี 3 เดือน หรือนับตั้งแต่ต้นปี 2023 เป็นต้นมา เมื่อจบเดือนมีนาคมนี้ ทองคำตลาดโลกพุ่งทะยาน 9% ทำสถิติทองคำรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบ 3 ปี 8 เดือน หรือตั้งแต่กรกฎาคม 2020 นอกจากนี้ ราคาทองคำปิดขึ้น +8% ในไตรมาสที่ 2 ส่งผลเป็นราคาทองคำที่ปิดบวกติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 อีกด้วย
สาเหตุจากนักลงทุนไม่มั่นใจในสถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่หลังจากมีรายงานจากสำนักข่าววอลล์สตรีท เจอร์นัล ว่าอิสราเอลพร้อมโจมตีรอบใหม่กับอิหร่าน เพื่อเป็นการป้องกันการแถลงเปิดปฏิบัติการทางทหารเพื่อล้างแค้นอิสราเอล โดยเฉพาะสถานทูตและเจ้าหน้าที่สถานทูตอิสราเอลในต่างประเทศ
ด้านผลตอบแทนพันธบัตรรัฐสหรัฐอายุ 10 ปี ลดลง และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงอ่อนค่าเช่นกัน สะท้อนคลายความกังวลว่าการลดดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐในปีนี้อาจล่าช้า อย่างไรก็ตาม ธนาคารยักษ์ใหญ่เริ่มทบทวนจำนวนครั้งที่เฟดจะลดดอกเบี้ยลดน้อยลงกว่าที่คาดไว้
สภาทองคำโลก หรือดับเบิลยูจีซี (WGC) เปิดเผยว่า ธนาคารกลางจีนแผ่นดินใหญ่ซื้อทองคำแท่งอีก 160,000 เมตริกตันเข้าสะสมในทุนสำรองระหว่างประเทศเมื่อเดือนมีนาคม 2024 นับเป็นเดือนที่ 17 ต่อเนื่อง เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งในเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ และความเสี่ยงเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ธนาคารกลางอินเดีย ตุรกี คาซัคสถาน และอื่นๆในทวีปยุโรปตะวันออกเพิ่มการซื้อทองคำเข้าทุนสำรองระหว่างประเทศด้วย
ทั้งนี้ ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงในเดือนมิถุนายนนี้อยู่ที่ 53% จากเดิมที่ 52%