ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 42,313 จุด +137 จุด หรือ +0.33% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,738 จุด -7 จุด หรือ -0.13% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 18,119 จุด -70 จุด หรือ -0.39% ส่งผลดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดขึ้น +0.6%, +0.6% และ +1% ตามลำดับ
สาเหตุจากนักลงทุนกลับมามั่นใจในแนวโน้มการลดดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐในช่วงไตรมาส 4 นี้ หลังจากตัวเลขรายจ่ายชาวอเมริกันในสิงหาคมเพิ่มขึ้น 0.1% ซึ่งตรงตามที่ประเมินไว้ และลดต่ำลงจากเดือนก่อนหน้านั้นที่ระดับ 0.2% ในแง่รายปี ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้น 2.2% ลดต่ำลงจากเดือนก่อนหน้านั้นที่ระดับ 2.5%
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงให้น้ำหนักปัจจัยเสี่ยงด้านการเมืองสหรัฐอเมริกาเนื่องจากเหลือเวลาอีกราว 5 สัปดาห์ที่จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ นอกจากนี้ จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในวันศุกร์ ได้แก่ รายจ่ายส่วนบุคคลชาวอเมริกันเดือนสิงหาคม
ด้านตัวชี้วัดโอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐอเมริกา พบว่า การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งต่อไปวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ มีโอกาสที่ 59% จากเดิมที่ 61% ที่ดอกเบี้ยจะปรับลดลง 0.5% และมีโอกาสที่ 41% ที่ดอกเบี้ยจะปรับลง 0.25%