ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ล่วงหน้า หรือ Future เมื่อเวลา 7.50 น. ตามเวลาไทย ปรากฏว่า ดำดิ่งหนักถึง -1,069 จุด หรือ -2.5% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ทรุดหนักถึง -3.5% และ ดัชนีหุ้นนาสแดค ร่วงลงแรงถึง -4.5% รับการประกาศอัตราภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs ของประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งประกาศ หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กสหรัฐปิดทำการในคืนผ่านมา
ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2025 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 42,225 จุด +235 จุด หรือ +0.56% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,670 จุด +37 จุด หรือ +0.67% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 17,601 จุด +151 จุด หรือ +087% ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิด -0.96%, -1.53% และ -2.59% ตามลำดับ ส่งผลดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ร่วงติดกัน 5 สัปดาห์ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ร่วงติดกัน 3 สัปดาห์ และ ดัชนีหุ้นนาสแดคร่วงติดกัน 5 สัปดาห์
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคมผ่านมา ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดดำดิ่งถึง -10.1% จากสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ผ่านมา ส่งผลเกิดภาวะดัชนีหุ้นปรับฐาน หรือ Correction สมบูรณ์แบบ สอดรับกับดัชนีหุ้นนาสแดคปิดดิ่งลงอีกเกินกว่า -10% ในโซนดัชนีหุ้นปรับฐาน หรือ Correction ต่อไป
สิ้นสุดกุมภาพันธ์ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิด -2.9%, -3.0% และ -5.5% ตามลำดับ ขณะที่สิ้นสุดมกราคม ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิด +4.7%, +2.7% และ +1.6% ตามลำดับ
สาเหตุจากนักลงทุนกลับเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มบลูชิปขนาดใหญ่ที่มีราคาตกต่ำต่อเนื่อง ซึ่งมั่นใจว่าอัตราภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariifs จะอยู่ในระดับที่ 10% ใช้กับทุกประเทศทั่วโลก ท่ามกลางรายงานของวอชิงตัน โพสต์ รายงานว่า คณะทำงานทำเนียบขาวร่างอัตราการจัดเก็บภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs ที่ 20% เพื่อนำเสนอให้ประธานาธิบดีสหรัฐพิจารณา ตามที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะประกาศลงนามในคำสั่งบังคับใช้ในวันที่ 2 เมษายนนี้
