ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่าเมื่อวันที่ 17 มีนาคม2025 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 41,841 จุด +353 จุด หรือ +0.85% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,675 จุด +36 จุด หรือ +0.65% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 17,808 จุด +54 จุด หรือ +0.31%
ส่งผลดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +1,027, +153 และ +505 จุด หรือ +2.51%, +2.78% และ +2.92% ตามลำดับ ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิด -3.1%, -2.0% และ -2.0% ตามลำดับ ส่งผลให้เป็นดัชนีหุ้นดาวโจนส์รายสัปดาห์ที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 2 ปี หรือตั้งแต่มีนาคม 2023 ขณะที่ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และนาสแดครายสัปดาห์ ปิดร่วงลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน
สาเหตุจากนักลงทุนรอติดตามการประชุมของธนาคารสหรัฐ หรือเฟด ซึ่งจะมีการประชุมขึ้นในวันพุธที่ 19 มีนาคม และคาดว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 ในรอบปีนี้ ในขณะที่มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิถุนายนนี้
นักลงทุนหวนเข้าซื้อหุ้นแทบทุกกลุ่มที่มีราคาตกต่ำอย่างรุนแรงในช่วง 4 วันทำการติดกันของสัปดาห์ผ่านไป โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีสำคัญทั้ง 7 บริษัทที่เรียกว่าหุ้น 7 นางฟ้า ซึ่งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาหุ้นกลุ่มดังกล่าวมีราคาตกต่ำเข้าสู่ภาวะหุ้นหมี หรือ Bear Stock นอกจากนี้ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2024 ยังคงมีการรายงานต่อเนื่องซึ่งพบว่าเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้