ดัชนี SET หุ้นไทย ปิดวันนี้ 1,216.71 จุด เพิ่มขึ้น 2.32 จุด หรือ +0.19% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 43,111.85 ล้าน ทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,218.64 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,207.21 จุด โดยหุ้นไทยวันนี้ผันผวนในแดนบวกและลบ จากแรงเทขายหุ้นที่ถูกปรับออกและถูกลดน้ำหนักในการคำนวณดัชนี เอ็มเอสซีไอ ในตลาดภาคเช้า จากนั้นกลับขึ้นมาแดนบวกในภาคบ่ายจากสงครามการค้าเริ่มคลี่คลาย
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1.CPALL ราคาปิด 51.00 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 0.97% มูลค่าซื้อขาย 3,908.20 ล้านบาท
2.ADVANC ราคาปิด 302.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.33% มูลค่าซื้อขาย 2,907.51 ล้านบาท
3.DELTA ราคาปิด 114.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท หรือ 6.54% มูลค่าซื้อขาย 2,587.16 ล้านบาท
บล. ทิสโก้ ระบุว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้ มีความผันผวนอย่างชัดเจน โดยช่วงเช้ามีการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงบ่ายและปิดตลาดในแดนบวกเล็กน้อย โดยปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดการแกว่งตัวนี้มาจากหลายปัจจัยที่ผสมผสานกัน โดยเฉพาะหุ้น DELTA ที่ปรับตัวขึ้นแรงถึง 5.6% ในช่วงบ่าย สอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นญี่ปุ่นประมาณ 6 จุด ซึ่งเป็นตัวหนุนสำคัญให้ดัชนีกลับมาเป็นบวกได้
อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงกดดันจากหุ้นที่ถูกปรับออกจากดัชนี MSCI อย่าง KTC, CRC และ BEM ที่สร้างแรงขายในช่วงเช้า ในขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 2 วันติดต่อกันได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานให้ปรับตัวขึ้นได้ดี หากหักผลบวกจากหุ้น DELTA ออกไป ดัชนีโดยรวมจะยังคงติดลบเล็กน้อย
สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้ (15 พ.ค.) คาดว่า ตลาดจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด โดยมีแนวรับที่ระดับ 1,200 จุด และแนวต้านที่ 1,230 จุด
ด้านบล. โกลเบล็ก มองตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ได้แรงหนุนสหรัฐฯ และจีนประกาศข้อตกลงลดภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันเป็นเวลา 90 วัน ประกอบกับนักลงทุนยังติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่จะสิ้นสุดในวันที่ 15 พ.ค. นี้ จึงให้กรอบดัชนีในสัปดาห์นี้ที่ 1,200-1,250 จุด อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังต้องเฝ้าระวังความไม่สงบระหว่างรัสเซียและยูเครน