ดัชนี SET Index ตลาด หุ้นไทย ปิดตลาดอยู่ที่ 1,316.73 จุด เพิ่มขึ้น 10.32 จุด หรือ +0.79% มูลค่าการซื้อขาย 38,354.24 ล้านบาท ดัชนียืนเหนือ 1,300 จุด ดีดตัวขึ้น ดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,300.36 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,317.63 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 หลักทรัพย์ ได้แก่
1.AOT มูลค่าการซื้อขาย 4,464.34 ล้านบาท ปิดที่ 58.50 บาท ลดลง 1.75 บาท
2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,295.14 ล้านบาท ปิดที่ 55.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
3.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,273.16 ล้านบาท ปิดที่ 86.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
ในวันนี้ 24 มิถุนายน 2567 พบว่า นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยมากถึง -1,087.97 ล้านบาท เมื่อนับรวมตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยมากถึง -27,189.85 ล้านบาท สอดรับกับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงวันนี้ 24 มิถุนายน 2024 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยมากถึง -109,349.47 ล้านบาท ส่งผลให้วันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยทะลุหลัก 100,000 ล้านบาทเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน
ข้อมูลถึงเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2024 นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิหุ้นไทยรวมกัน 23 วันทำการติดต่อกัน หรือตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคมถึงวันที่ 24 มิถุนายน 2024 (ในวันทำการ) มูลค่า -43,953.64 ล้านบาท ส่งผลทำสถิตินักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยยาวนานที่สุดในรอบ 4 เดือน 2 สัปดาห์ต่อเนื่อง หรือนับตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2024
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น Outperform ตลาดเอเชียที่ส่วนใหญ่แกว่งลบ โดยมีแรงซื้อเก็งกำไรก่อนการแถลงข่าวร่วม 3 หน่วยงาน คือ กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เกี่ยวกับมาตรการสร้างความเชื่อมั่นตลาดทุนช่วงเย็นวันนี้
โดยการแถลงครั้งนี้ ตลาดฯ คาดการณ์ว่าจะพูดถึงการนำกองทุน TESG มาปรับเงื่อนไขใหม่ ซึ่งยังต้องติดตามรายละเอียด ทั้งสินทรัพย์ที่ลงทุน วงเงิน รวมทั้งระยะเวลาถือครอง หากยิ่งสั้นจะส่งผลบวกต่อตลาด ขณะที่ฝั่งของ ก.ล.ต.และ ตลท.คาดจะแถลงเนื้อหาเกี่ยวกับไทม์ไลน์มาตรการดูแลตลาดทุน หากมีการประกาศบังคับใช้เร็วขึ้นจะยิ่งส่งผลดีต่อตลาด
สำหรับแนวโน้มพรุ่งนี้คาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์อัพ ให้กรอบแนวรับ 1,305-1,310 จุดและแนวต้าน 1,320 จุด