ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,371.90 จุด บวก 2.61 จุด หรือ 0.19% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 36,361.12 ล้านบาท โดยดัชนีแกว่งตัวผันผวน โดยทำจุดต่ำสุดวันนี้อยู่ที่ 1,365.92 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,372.32 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. CPALL มูลค่า 2,478.06 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 59.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 1.29%
2. ADVANC มูลค่า 1,329.11 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 206.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
3. CRC มูลค่า 1,129.52 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 30.75 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 4.65%
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวอ่อนแอกว่าภูมิภาคอย่างมากเพราะนักลงทุนยังไม่เชื่อมั่นว่าทิศทางตลาดหุ้นจะอยู่ในขาขึ้นอย่างแท้จริง โดยต่างชาติขายสุทธิแบบย้อนหลัง 1 เดือน (Month to Date) อยู่ที่ 4,000 กว่าล้านบาท โดยคาดว่าสัปดาห์หน้าดัชนีฯ จะเเกว่งในกรอบแนวรับ 1,360-1,350 จุด แนวต้านอยู่ที่ 1,385 จุด
ด้านนายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งในกรอบแคบๆ แย่กว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะฮ่องกง จีน ญี่ปุ่น ที่ปรับตัวขึ้นร้อนแรง ตอบรับตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่ออกมาสูงกว่าคาดการณ์ หนุนให้นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
อย่างไรก็ตามสาเหตุที่ตลาดหุ้นบ้านเราไม่ได้ปรับตัวขึ้นตาม เนื่องจากอยู่ในช่วงของการประกาศงบฯไตรมาส 1/67 ซึ่งนักลงทุนก็จะเข้าลงทุนในหุ้นรายตัว โดยบริษัทที่ผลประกอบการออกมาดีก็จะบวกได้ดี ส่วนบริษัทที่งบฯออกมาใกล้เคียงคาดการณ์ก็จะถูกเทขายทำกำไร (Sell on Fact) และบริษัทที่งบฯออกมาแย่กว่าคาดก็จะถูกเทขายออกมา ซึ่งนักลงทุนยังคงติดตามการประกาศงบฯอย่างต่อเนื่อง คาดจะสิ้นสุดในวันที่ 15 พ.ค.นี้
แนวโน้มวันจันทร์ (13 พ.ค. 67) คาดตลาดฯ น่าจะยังแกว่งตัวในกรอบอยู่ จากนักลงทุนติดตามการประกาศงบฯ ไตรมาสแรกโค้งสุดท้าย และรอดูการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐ ในวันที่ 14 พ.ค., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน เม.ย. ของสหรัฐ ในวันที่ 15 พ.ค. 67 ให้แนวรับไว้ที่ 1,360 จุด และแนวต้าน 1,380 จุด