ดัชนี SET Index ปิดวันนี้ที่ 1,115.69 จุด เพิ่มขึ้น 5.68 จุด หรือ +0.51% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 34,958.34 ล้านบาท หลังจากช่วงเช้าแกว่งแดนลบ ก่อนดีดขึ้นมาแรงช่วงท้ายมาปิดที่ระดับสูงสุดของวัน 1,115.69 จุด และทำระดับต่ำสุด 1,103.99 จุด
โดยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้นมาได้หลังภาพการเมืองชัดเจนขึ้น รัฐบาลยังเดินหน้าทำงานต่อได้แม้ น.ส.แพทองธาร หยุดปฎิบัติหน้าที่ โดยมีรักษาการนายกฯ เข้ามาผลักดันมาตรการภาครัฐและงบประมาณปี 69 ขณะที่ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเจรจาการค้าสหรัฐคืบหน้า รวมถึงคาดหวังเฟดลดดอกเบี้ย แนวโน้มวันพรุ่งนี้รอปัจจัยใหม่หนุน
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1. KTC มูลค่าการซื้อขาย 3,105.28 ล้านบาท ปิดที่ 25.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท
2. ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,223.19 ล้านบาท ปิดที่ 281.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
3. SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,213.81 ล้านบาท ปิดที่ 120.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
บล.พาย ระบุว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้ดีดขึ้นมาได้เล็กน้อย โดยมองว่าอยู่ในจุดที่ไม่มีแรงกดดันใหม่เข้ามาเพิ่ม หลังสถานการณ์การเมืองมีความชัดเจนมากขึ้นทำให้ตลาดคลายความกังวล เมื่อภาพรวมประเทศเดินหน้าต่อได้แม้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมตรี แต่ก็มีการแต่งตั้งผู้รักษาการนายกฯ ทำให้การออกมาตรการภาครัฐและการพิจารณางบประมาณปี 69 น่าจะไม่ติดขัด
อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามการวินิจฉัยข้อกล่าวหาของ น.ส.แพทองธารต่อไป ซึ่งอาจจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน
ทั้งนี้ ตลาดวันนี้ยังได้รับแรงหนุนบางส่วนจากการเจรจาการค้าสหรัฐเดินหน้าต่อ รวมถึงปัจจัยเชิงบวกจากตลาดภูมิภาคที่ยังอยู่ในระดับน่าพอใจ รวมถึง valuation ของหุ้นไทยไม่แพง และนักลงทุนคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยหลังจากเงินเฟ้อสหรัฐไม่สูงมาก และตัวเลขเศรษฐกิจยังต่ำกว่าคาด
ขณะที่แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดตลาดแกว่งในกรอบรอปัจจัยใหม่ ๆ หลังรับรู้การเมืองและการเจรจาการค้าไปแล้ว แนะติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะการจ้างงาน และความคืบหน้าการเจรจาการค้าสหรัฐ-ไทย และประเทศคู่ค้าอื่น ๆ ต่อไป โดยให้กรอบแนวต้าน 1,125 จุด แนวรับ 1,105 จุด