ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,367.84 จุด ลดลง 2.99 จุด หรือ -0.22% มูลค่าซื้อขาย 46,236.17 ล้านบาท ดัชนีหุ้นไทยวันนี้ยังถูกกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะความกังวลเฟดลดดอกเบี้ยช้าลง รวมถึงแรงเทขายหุ้น EA และ NEX หลังโบรกหั่นราคาเป้าหมาย
ดัชนีเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและแดนลบ โดยทำจุดต่ำสุด 1,364.31 จุด และทำจุดสูงสุด 1,374.04 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. NEX มูลค่าการซื้อขาย 1,934.01 ล้านบาท ปิดที่ 3.16 บาท ลดลง 0.90 บาท
2. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,727.40 ล้านบาท ปิดที่ 58.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
3. CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,636.53 ล้านบาท ปิดที่ 23.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ภาพรวมยังไม่ค่อยดี ปัจจัยต่างประเทศนักลงทุนยังกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกช้ากวี่าคาด และยังเผชิญแรงเทขายหุ้น EA และ NEX หลังจากนักวิเคราะห์ต่างปรับราคาเป้าหมายลงเมื่อ NEX แจ้งงบไตรมาส 1/67 ยอดส่งมอบรถโดยสาร EV พลาดเป้าค่อนข้างมาก แม้วันนี้มีแรงซื้อในกลุ่มผู้ผลิตอาหาร อาทิ CPF TFG BTG จากราคาเนื้อสัตว์ที่ปรับตัวดีขึ้น และกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ได้รับผลดีจากผลประกอบการของ NVDIA ออกมาดีกว่าคาด รวมทั้งตัวเลขส่งออกของไทยเดือนเม.ย.ที่พลิกกลับมาบวก 6.8% แต่มีผลต่อดัชนีเล็กน้อย เพราะถูกกดดันจากแรงขาย EA และ NEX
สำหรับแนวโน้มในวันพรุ่งนี้จากเทคนิคดัชนีหลุดแนวรับ 1,370 จุดทิศทางจะซึมตัว ตลาดยังรอติดตามการรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนพ.ค.และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ หากตัวเลขว่างงานพุ่งอาจหนุนให้มีความคาดหวังเฟดลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น โดยยังต้องติดตามเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างประเทศประกอบด้วยหลังจากเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาขายออกไปค่อนข้างมาก พร้อมให้กรอบแนวรับ 1,355-1,360 จุด และแนวต้าน 1,375 จุด