หุ้นไทยปิดร่วง 16.85 จุด ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ จากความกังวลสหรัฐชัตดาวน์ยืดเยื้อ สงครามการค้า และแรงขายหุ้นใหญ่กดดัน

ดัชนี SET Index  ปิดวันนี้ที่ 1,274.61 จุด ลดลง 16.85 จุด หรือ -1.30% มูลค่าซื้อขาย 36,760.70 ล้านบาท ดัชนีเคลื่อนไหวแดนลบตลอดทั้งวัน ทำจุดต่ำสุด 1,274.10 จุด และจุดสูงสุดที่ 1,289.73 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่ 

1.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,861.50 ล้านบาท ปิดที่ 19.80 บาท ลดลง 0.30 บาท

2.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,717.54 ล้านบาท ปิดที่ 171.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

3.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,660.89 ล้านบาท ปิดที่ 30.25 บาท ลดลง 0.50 บาท

นายวีรวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอส เอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยที่มีปัจจัยกดดัน Sentiment จากการที่สหรัฐยังคงอยู่ในภาวะ Government Shutdown มาอย่างต่อเนื่อง ยังไม่มีท่าทีว่าจะพรรครีพับลิกันและเดโมแคตรจะตกลงกันได้เรื่องงบประมาณ ประกอบกับข่าวแบงก์แห่งหนึ่งในสหรัฐมีปัญหาคุณภาพหนี้จากกรณีลูกหนี้มีคดีฉ้อโกง เป็นปัจจัยกดดันหลักต่อตลาดหุ้นสหรัฐ และส่งผลมาถึงตลาดหุ้นในประเทศอื่นๆ

อีกทั้งขณะนี้ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน และยังไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจนของประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนว่าจะมีการเจรจาอย่างไร ทำให้ภาพของตลาดหุ้นในวันนี้เป็นการพักตัวหลังจากที่ขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว โดยบ้านเราได้รับแรงกกดดันจากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่

ส่วนแนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดตลาดแกว่งไซด์เวย์รอติดตามความคืบหน้าของภาวะ Government Shutdown ของสหรัฐจะยืดเยื้อต่อไปหรือไม่ รวมทั้งการประเด็นสงครามการค้าระหว่าสหรัฐและจีนโดยให้กรอบแนวต้าน 1,280-1,290 จุด แนวรับ 1,260-1,270 จุด

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles