ดัชนี SET หุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,387.72 จุด ปรับลง 3.16 จุด หรือ -0.23% มูลค่าซื้อขาย 35,326.19 ล้านบาท ดัชนีย่อตัวลงมา โดยทำจุดสูงสุด 1,392.43 จุด และทำจุดต่ำสุด 1,381.72 จุด
สำหรับ 3 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
- DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,719.74 ล้านบาท ปิดที่ 154.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
- GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,531.93 ล้านบาท ปิดที่ 58.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
- ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,436.00 ล้านบาท ปิดที่ 284.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ย่อตัวลงมาเล็กน้อย เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวลงถ้วนหน้า ขณะที่วานนี้หุ้นไทยก็ขึ้นมาแรงแล้วทำให้วันนี้มีแรงเทขายทำกำไรออกมา บวกกับค่าเงินบาทที่ยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องก็อาจเป็นแรงกดดันให้เงินทุนต่างชาติไหลออก
โดยตลาดหุ้นไทยยังคงเป็นภาวะไร้ปัจจัยใหม่ๆ โดยนักลงทุนอยู่ระหว่างจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนธ.ค.ของสหรัฐจาก ADP ในคืนนี้ ตลาดคาดไว้ 1.4 แสนคน หากออกมามากกว่านั้นอาจเป็นแรงกดดันเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังจับตาการเปิดเผยตัวเลขอัตราการว่างงาน และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ธ.ค. ของสหรัฐในคืนวันศุกร์ด้วย
ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดตลาดฯ เคลื่อนไหวในกรอบแนวรับที่ 1,380 จุด และแนวต้าน 1,400 จุด
ด้าน บลจ. เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ ระบุว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงเกือบทั้งวันด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง เพราะปัจจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วนในประเทศเป็นเพราะกลุ่มสื่อสารและโทรคมนาคม 2 เจ้ากำลังเข้าสู่ช่วงการประมูลคลื่นความถี่ อย่างไรก็ตามทั้งสองยังมีคลื่นความถี่อยู่ในมือที่ยังใช้ประโยชน์ไม่ได้อย่างเต็มที่ทั้งสองเเห่ง ดังนั้นจึงยังไม่กระทบทั้งสองกลุ่มมากว่าจะประมูลคลื่นได้มากน้อยขนาดไหน ประกอบกับแนวโน้มการปรับลดค่าไฟสู่ระดับ 3.70 บาทต่อหน่วยอาจเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้นนักลงทุนจึงหายแพนิคระดับหนึ่ง
ขณะที่ประเด็นต่างประเทศวันนี้ ตลาดหุ้นเอเชียไม่สดใสเนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาไม่ดีมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลข Job Opening ที่เพิ่งประกาศออกมา รวมทั้งตลาดหุ้นจีน โดยเฉพาะตลาดหุ้นฮ่องกงที่ได้รับแรงกดดันจากการประกาศแบนบริษัท CATL และ TENCENT ของจีน
ทั้งนี้ คาดวันพรุ่งนี้ดัชนีฯ มีแนวโน้มแกว่งทดสอบแนวรับ 1,380 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ในกรอบ 1,400-1,405 จุด