ดัชนี SET หุ้นไทย ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,203.72 จุด ลดลง 12.01 จุด หรือ -0.99% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 74,436.98 ล้านบาท ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน เปิดตลาดช่วงเช้า ดัชนีหลุดจากระดับ 1,200 จุดทันที จากความกังวลสงครามการค้า โดยระหว่างวัน ลดลงไปเกือบ 30 จุด ก่อนที่ปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อย
โดย 3 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1. CPALL ปิดที่ 54.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,587.69 ล้านบาท
2. ADVANC ปิดที่ 276.00 บาท ลดลง -5.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,136.14 ล้านบาท
3. PTTGC ปิดที่ 15.90 บาท ลดลง -0.20 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,766.56 ล้านบาท
บล. กสิกรไทย ระบุว่าตลาดหุ้นไทยได้รับแรงกดดันจากทั่วภูมิภาคเอเชีย จากความกังวลประเด็นสงครามการค้า และแรงกดดันภายในเพิ่มเติม ด้วยแรงเทขายจากโปรแกรมเทรดดิ้งและการทำช็อตเซล ประกอบกับนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในสภาพเศรษฐกิจและผลประกอบการ ซึ่งมีหลายบริษัทเปิดเผยออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ฉะนั้นผู้ที่ถือกองทุนมีสัดส่วนในกองทุนหุ้นไทย หากมีสัดส่วนเกิน 30% ของพอร์ต อาจพิจารณาปรับลดความเสี่ยง หรือหากมีสัดส่วนน้อยกว่า 30% ของพอร์ต
บล. เอเซีย พลัส ระบุว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวลงตามกัน โดยที่ยังคงรับปัจจัยกดดันจากสงครามการค้าของสหรัฐที่เดินหน้าในการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่อาจชะลอตัวได้
ขณะที่นักลงทุนมีการปรับพอร์ตขายสินทรัพย์เสี่ยง และโยกเงินไปยังสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉพาะพันธบัตร และถือเงินสด เพื่อป้องกันความเสี่ยง และรอติดตามสถานการณ์ ทำให้เป็นปัจจัยที่กดดันต่อตลาดหุ้น และตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ก็ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าคาดแกว่งตัวไซด์เวย์ และในคืนนี้รอติดตามตัวเลข PCE สหรัฐ ซึ่งหากออกมาจากต่ำกว่าที่ตลาดคาดก็อาจจะเป็นปัจจัยที่หนุนต่อ sentiment ของตลาดหุ้นได้ แต่หากออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดก็จะเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นได้ต่อ ซึ่งยังต้องดูทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐในคืนนี้ โดยให้แนวต้าน 1,210-1,220 จุด แนวรับ 1,180-1,190 จุด