ดัชนี SET หุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,427.64 จุด ปรับพุ่งขึ้น 23.36 จุด หรือ +1.66% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 107,404.75 ล้านบาท โดยดัชนีปิดสูงสุดในรอบ 8 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2567 เป็นวันที่ดัชนีหุ้น SET ปิดที่ระดับ 1,418 จุด อีกทั้งต่างชาติซื้อสุทธิ 10,756 ล้านบาท อีกทั้งมูลค่าการซื้อขายทะลุกว่า 1 แสนล้านบาท มากสุดรอบเกือบ 1 ปี 7 เดือน นับจากวันที่ 15 ก.พ. 2566 ซึ่งเคยสูงถึง 114,246.34 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีฯปรับตัวขึ้นร้อนแรงต่อเนื่อง ทำจุดสูงสุด 1,431.24 จุด และจุดต่ำสุด 1,412.76 จุด
สำหรับ 3 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
- BBL มูลค่าการซื้อขาย 6,380.44 ล้านบาท ปิดที่ 150.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท
- CPALL มูลค่าการซื้อขาย 5,975.51 ล้านบาท ปิดที่ 65.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
- KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,297.32 ล้านบาท ปิดที่ 152.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้นได้แรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงบ่ายเม็ดเงินต่างชาติ (Fund Flow) ไหลเข้าซื้อหุ้นกลุ่มแบงก์เต็มๆ ทั้ง BBL KBANK KTB SCB หลังจากที่ราคาลงไปมากแล้วจากปัญหาหนี้ NPL จนเทรดต่ำกว่า Book Value
สำหรับ Fund Flow วันนี้ไหลเข้ามาในภูมิภาค ทั้งตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย รวมถึงไทย โดยมาจากการขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เป็น Growth Stock โยกเข้ามาเล่นกลุ่ม Value Stock ที่ส่วนใหญ่อยู่ในไทยและอินโดนีเซีย
แนวโน้มในสัปดาห์หน้า ต้องติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ส.ค. และอัตราว่างงานของสหรัฐในคืนนี้ หากตัวเลขว่างงานเท่าเดิมที่ 4.3% อาจมีโอกาสได้เห็นธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50% ในเดือน ก.ย. พร้อมให้แนวต้านที่ 1,460 จุด แนวรับ 1,410 จุด
ด้าน บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพ SET Index ยังเป็นขาขึ้นจากปัจจัยบวกความคาดหวังกองทุนรวมวายุภักษ์วงเงินราว 1.5 แสนล้านบาท โดยวอลุ่มการซื้อขายทะลุกว่า 1 แสนล้าน ถือเป็นมูลค่าซื้อขายต่อวันที่มากสุดรอบเกือบ 1 ปี 7 เดือน นับจากวันที่ 15 ก.พ. 2566 ซึ่งเคยสูงถึง 114,246.34 ล้านบาท
ขณะเดียวกันมีภาพที่ชัดเจนของกระแสเงินทุนที่ไหนเข้ามาสะท้อนจากวานนี้ (5 ก.ย. 2567) ต่างชาติซื้อสุทธิมากกว่าปกติ และตลาดหุ้นไทยน่าจะมีภาพบวกต่อไป อีกทั้งคืนนี้จะมีการรายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือน ส.ค. สหรัฐ โดย ตลาดคาด 1.64 แสนตำแหน่ง ซึ่งมองว่าหากออกมาใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด หรือมากกว่าคาด สินทรัพย์เสี่ยงรวมถึงหุ้นไทยจะได้รับจิตวิทยาเชิงบวกในสัปดาห์หน้า
