ดัชนี SET Index หุ้นไทย ปิดวันนี้ที่ 1,320.86 จุด ปรับขึ้น 12.77 จุด หรือ 0.98% มูลค่าซื้อขาย 42,648.32 ล้านบาท ดัชนีผันผวนในทิศทางปรับตัวขึ้นทั้งวันซึ่งทำจุดต่ำสุดวันนี้อยู่ที่ 1,322.08 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,311.93 จุด
สำหรับ หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 หลักทรัพย์
1.CPALL มูลค่า 2,951.40 ล้านบาท หรือ 3.64% ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 58.25 บาท หรือ 3.56% บาท หรือ 7.28%
2.AOT มูลค่า 2,126.20 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 56.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 0.88%
3.PTTEP มูลค่า 1,773.12 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 147.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท หรือ 3.52%
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัยพ์ (บล.) ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า วันนี้ดัชนีฯ ปรับตัวขึ้นตลอดทั้งวันเพราะได้รับอานิสงส์จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น กำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ของประเทศไทยออกมาตามคาดและดีกว่าคาดการณ์ในบางตัว, มีข่าวดีเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตและการเตรียมกองทุน TESG ประกอบกับค่าเงินบาทวันนี้แข็งค่าขึ้นอย่างมากส่งสัญญาณว่าอาจจะมีแรงซื้อจากต่างชาติ
ส่วนพรุ่งนี้ (1 ส.ค.) คาดว่าจะเป็นภาพของไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์ขาขึ้นในกรอบ 1,330 – 1,310 จุด
ด้านนายกรภัทร วรเชษฐ์ หัวหน้าสายงานวิจัย บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัวขึ้นตอบรับเชิงจิตวิทยาคาดการณ์ผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คืนนี้จะมีมุมมองต่อการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น หลังเงินเฟ้อสหรัฐปรับตัวลงต่อเนื่องเข้าใกล้เป้าหมายของเฟด ส่งผลดีต่อการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย รวมถึงฝั่งจีน นักลงทุนคาดหวังจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3
แนวโน้มวันพรุ่งนี้ตลาดมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปได้ต่อ จากโทนประชุมเฟดน่าจะผ่อนคลายมากขึ้น และการทยอยประกาศงบของบริษัทจดทะเบียนที่คาดจะออกมาดีต่อเนื่อง ให้แนวรับ 1,312-1,307 จุด และแนวต้าน 1,332 จุด