ดัชนี SET หุ้นไทย ปิดวันนี้ที่ 1,160.74 จุด ลดลง -2.68 จุด หรือ -0.23% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 36,281.33 ล้านบาท ดัชนีแกว่งตัวในแดนบวกจนใกล้ปิดตลาดไหลลงมาอยู่ในแดนลบ โดยทำระดับต่ำสุด 1,160.59 จุด และทำจุดสูงสุด 1,173.68 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,681,84 ล้านบาท ปิดที่ 156.00 บาท ลดลง 5.00 บาท
2.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,969.84 ล้านบาท ปิดที่ 104.00 บาท ลดลง 3.50 บาท
3.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,686.91 ล้านบาท ปิดที่ 48.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
โดยบล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้พยายามฟื้นตัวขึ้นแต่ยังไม่ค่อยมีกำลัง จึงลดช่วงบวกลงมาติดลบเล็กน้อยท้ายตลาด ภาพรวมยังขาดปัจจัยหนุน โดยวันนี้มีหุ้นที่พยายามรีบาวด์ขึ้นมา อาทิ กลุ่มปิโตรเคมีที่ฟื้นตัว หลังจากทิศทางสินทรัพย์เสี่ยงเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาบ้าง รวมทั้งผ่อนคลายความกังวลประเด็นสงครามการค้าระยะสั้นจากการที่สหรัฐเลื่อนเก็บภาษียุโรป
อย่างไรก็ตาม แรงขาย KBANK และ DELTA ยังถ่วงดัชนีพอสมควร โดยกรณีของ KBANK ถูกขายหลังจาก GULF แจ้งขายหุ้นที่ถืออยู่บางส่วนออกมา ขณะที่ DELTA สัญญาณทางเทคนิคดูไม่ดีขึ้น ส่งผลให้ดัชนี SET ลดช่วงบวกลงมา
ส่วนแนวโน้มพรุ่งนี้ตลาดมีโอกาสซึมตัว ขณะที่ตลาดดาวโจนส์ฟิวเจอร์สเริ่มเป็นลบทำให้ภาพรวมตลาดดูไม่ค่อยดี แนะคืนนี้ติดตามรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมองว่าอาจออกมาในโทนที่ไม่ค่อยดี เพราะรายงานฉบับก่อนหน้านี้เฟดส่งสัญญาณว่าจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งติดตามความคืบหน้านโยบายการค้าของสหรัฐ ขณะที่การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและไทยยังล่าช้า และสังเกตเห็นว่าประเทศที่ค่อนข้างเล็กและไม่ได้เป็นคู่ค้าสำคัญของสหรัฐอาจไม่ได้เปรียบในการเจรจาเท่าไรนัก
ทั้งนี้ยังต้องติดตามราคาน้ำมันดิบ ซึ่งสัปดาห์นี้จะมีการประชุมโอเปกพลัส คาดว่าจะมีการปรับเพิ่มกำลังการผลิต ในช่วงเดือนก.ค. ดังนั้น จากความกังวลอุปทานน้ำมันอาจกดดันกลุ่มพลังงานได้โดยให้กรอบแนวรับ 1,160 จุด ถัดไป 1,145 จุด และแนวต้าน 1,166-1,170 จุด